ใครๆหลายคนมักจะคิดว่าคนที่ตกงาน เมื่อมีประกาศรับสมัครงาน หรือตำแหน่งงานว่างก็ควรที่จะรีบสมัครทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกงานเลย เพราะนั่นคือโอกาส แต่เมื่อลองมาย้อนดูอีกครั้ง การที่เราจะสมัครงาน เราควรที่จะเลือกตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับเราจริงๆ ไม่ควรที่จะสมัครงานไปทุกตำแหน่งงาน โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติที่ทางบริษัทหรือสถานประกอบการกำหนดไว้ เพราะถ้าหากทางบริษัทเลือกเราให้ไปทำงานในตำแหน่งนั้นๆแล้ว แต่เราไม่สามารถทำงานนั้นได้ จะทำให้เรากลับไปสู่ คนตกงาน เช่นเดิมอีก อีกทั้งทางบริษัทก็มีความเสียหายเกิดขึ้น เช่น เสียเวลาในการจัดสรรหรือคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานใหม่ เปลืองทรัพยากรในการรับสมัครงาน ความลับบางอย่างอาจะรั่วไหลออกไปโดยผู้ที่เข้ามาสมัครงานแล้วทำงานไมได้ จึงลาออกไป เป็นต้น แนะนำสิ่งที่ต้องรู้ของคนตกงาน คนรอบข้างที่ไม่ได้อยู่ในสภาวะของการตกงาน มักจะคิดว่า คนตกงาน ไม่มีสิทธิ์ในการเลือกงานเลย เพราะตำแหน่งงานว่างมีน้อยและในแต่ละตำแหน่งงานที่ว่างนั้นมันคือโอกาสสำคัญ แต่การสมัครงานโดยไม่เลือกนั้น ส่งผลเสียค่อนข้างที่เยอะมากๆ ซึ่งโดยปกตินั้น คนตกงาน ก็มักจะรู้สึกแย่อยู่แล้ว เมื่อมีคนรอบข้างที่กดดันและคะยั้นคะยออีก ก็ยิ่งทำให้พวกเขาไม่มีความสุข กดดัน วิตกกังวลไปมากกว่าเดิมซะอีก ทางที่ดีควรจะปล่อยให้พวกเขาได้ตัดสินใจและเลือกงานที่เหมาะสมกับเขาเอง การเลือกงาน หลายคนมักจะคิดว่าในสถานแบบนี้นั้น ไม่ควรที่จะเลือกงานเลยด้วยซ้ำ แต่การเลือกงานนั้นไม่ใช่เป็นการที่เลือกเยอะเลือกมาก หรือทะนงตัวเองสูงเกินไป แต่จริงๆแล้วการเลือกงานนั้นมีข้อดีมากมาย เช่น ทำให้เราสมัครงานตรงตามคุณสมบัติที่ประกาศไว้ ทำให้เราได้มีเวลาในการตัดสินใจว่าจะเลือกที่จะทำงานลักษณะนี้หรือไม่ ทำให้เราได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้และทำงานในบริษัทนั้นได้ยาวนาน…
คุณครู เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้นักเรียนรู้สึกอยากมาโรงเรียน หรือไม่อยากมาโรงเรียน และรู้สึกว่าอยากเรียนหนังสือที่โรงเรียนหรือไม่ ซึ่งนอกจากคุณครู มีหน้าที่ในการสอนหนังสือ ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนแล้วนั้น คุณครูก็ยังจะต้องมีการสอนคุณธรรม จริยธรรมและมารยาทต่างๆในแก่เด็กๆอีกด้วย แต่ใน บทบาทของคุณครู บางท่านก็มีท่าทีที่ไม่เหมาะสมต่อเด็กๆ จนทำให้เด็กนักเรียนรู้สึกไม่ชอบ ไม่มีความสุขในการมาโรงเรียน จนทำให้เด็กบางคนอาจจะมีการแสดงกิริยามารยาทที่ไม่เหมาะสมต่อคุณครูได้ บทบาทของคุณครูที่มีอิทธิพลต่อเด็กนักเรียน ในปัจจุบันเรามักจะเห็นข่าวที่เกี่ยวกับครูและนักเรียนในแง่ที่ไม่ดี เช่น ครูข่มขืนนักเรียน ครูเหยียดนักเรียนที่เป็นเพศที่สาม หรือครูที่ทำร้ายร่างกายนักเรียน เป็นต้น ซึ่งข่าวเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้ปกครองมีความเป็นห่วงในการที่จะส่งลูกหลานไปโรงเรียน และถ้าหากนักเรียนเป็นผู้ฟังหรือติดตามข่าวสารด้วยตนเอง จะยิ่งทำให้นักเรียนและเด็กๆมีความหวาดกลัวในการไปโรงเรียนมากยิ่งขึ้นด้วย อีกทั้ง บทบาทของคุณครู ที่ไม่ดีนั้น อาจจะเป็นภัยต่อสังคมอีกด้วย เพราะคุณครูก็เป็นคนๆหนึ่งที่จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่มีต่อเด็กนักเรียน การเป็นคุณครูจึงไม่สามารถที่จะเป็นกันได้อย่างง่ายดาย ในความเป็นจริงแล้วนั้นคุณครูมีทั้งที่เป็นคนดีและไม่ดี แต่อยากให้ทางโรงเรียนมีความเข้มงวดในการรับคุณครูเพื่อมาสอนในโรงเรียนต่างๆมากกว่าเดิม เพื่อให้โรงเรียนนั้นมีความปลอดภัย เหมาะสำหรับเป็นที่สร้างเสริมและพัฒนาให้แก่เด็กๆ เยาวชนให้เติบโตไปเป็นคนที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรมที่ดีในสังคม และเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองที่เคยได้กล่าวๆกันไว้เมื่อก่อน การเป็นคุณครู ควรจะอยากเป็น อยากประกอบอาชีพนี้จริงๆ รู้สึกถึงจิตวิญญาณของความเป็นครู ไม่ใช่เพียงแค่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กนักเรียนได้ ก็มาเป็นคุณครูแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดมหัน…
ชีวิตหลังจากจบจากมหาวิทยาลัยนับเป็นชีวิตที่เราจะต้องเผชิญกับโลกกว้างชีวิตของการหาเงินชีวิตของการหาความฝันแต่นั่นแหละนี่เป็นสิ่งที่ทำให้ นักศึกษาจบใหม่ ป้ายแดงต้องชะงักเพราะว่าไม่รู้ว่าเราควรจะทำอะไรไม่รู้ว่าเราควรจะหาเงินอย่างไรทำงานอะไรจะหาสิ่งที่เราชอบอย่างไร บางคนนับว่าโชคดีที่หาตัวเองเจอในขณะที่เรียนมหาวิทยาลัย แต่บางคนหรือหลาย ๆ ค้นหาเส้นทางชีวิตของตัวเองยังไม่เจอและในบทความนี้จะมาช่วยบัณฑิตจบใหม่ค้นหาตัวเองให้เจอกันครับ แนะนำปัจจัยที่ช่วยนักศึกษาจบใหม่ให้มีงานทำ อย่างที่ 1 ตั้งคำถามว่าอยากมีชีวิตแบบไหน ชื่อว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดการที่ นักศึกษาจบใหม่ ต้องรู้ ว่าเราจะมีชีวิตไปทางไหนจะทำให้เรารู้ว่าเราควรจะทำอาชีพอะไร ถ้าในอนาคตเราอยากเป็นคนที่เดินทางไปทั่วโลกอาชีพที่ตอบโจทย์มากที่สุดคืออาชีพไกด์ที่จะได้เดินทางไปในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ หรืออีกตัวอย่างหนึ่งอนาคตเราไม่อยากทำงานที่เป็นลูกจ้างคนอื่นอยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะทางธุรกิจเพื่อที่จะเอาได้เป็นเจ้าของธุรกิจของเราเองและสิ่งนี้ก็ทำให้เราไม่ต้องเป็นลูกน้องของคนอื่น เป็นต้น อย่างที่ 2 เมื่อนักศึกษาจบใหม่อยากทำงานในบริษัทหรือทำงานเกี่ยวกับทางราชการ เราต้องคิดถึงปัจจัยทั้งหมด 6 อย่างนี้ 1. ระดับรายได้ นักศึกษาจบใหม่ อยากมีรายได้ในการทำงานเดือนละเท่าไหร่ซึ่งแต่ละอาชีพนั้นจะมีรายได้ที่แตกต่างกันบางอาชีพนั้นเขาก็ให้รายได้ตามความสามารถที่มีและประสบการณ์ที่เราได้สะสมมา แตกในฐานะนักศึกษาจบใหม่รายได้อาจจะยังไม่สูงมากนักสิ่งที่ทำให้เราได้รายได้เพิ่มนั้นก็คือโบนัสในการทำงาน ดังนั้นถ้าหากอยากมีประสบการณ์ในช่วงที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยการหารายได้เสริมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีที่จะทำให้เราได้ประสบการณ์ 2.ความมั่นคงในหน้าที่การงาน เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้ นักศึกษาจบใหม่ รู้ว่าในอนาคตจะมีงานทำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอนจนกว่าเราจะเกษียณ การที่มีงานที่ไม่มั่นคงนั้นจะทำให้ตกงานและต้องเปลี่ยนงานบ่อยและสิ่งนี้ทำให้เงินเดือนนั้นต้องเริ่มสตาร์ทใหม่ตลอด ดังนั้นเราควรเลือกที่จะอยู่บริษัทที่มีฐานทางการเงินที่ดี 3.สวัสดิการที่มีให้ เมื่อเข้าไปทำงานแล้ว นักศึกษาจบใหม่ จะต้องคำนึงถึงสวัสดิการของบริษัทต่าง ๆ ที่เข้าไปทำงานด้วยเพราะว่าบางบริษัทไม่ได้ครอบคลุมสวัสดิการทั้งหมดที่ต้องการในชีวิต ตัวอย่างสวัสดิการที่บริษัทจะมีให้ เช่น ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ ทุกบริษัทจะมีสิ่งนี้เพราะว่าการที่ เรามีสวัสดิการในการรักษาพยาบาลทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคได้มากขึ้นแล้วรวมไปถึงทำให้ครอบครัวเรานั้นได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ด้วย 4.สถานที่ทำงาน…
นิเทศศาสตร์ เป็นอีกสาขาวิชาในการเรียนมหาวิทาลัย ที่หลาย ๆ คนนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมากและเป็นที่นิยมในการเลือกที่จะเรียนมาก ๆ วันนี้แอดอยากที่จะมา แนะนำ 3 หลักสูตรนิเทศศาสตร์ สาขาที่หลายคนยังไม่ทราบ และอาจยังไม่รู้จัก บอกเลยว่าน่าเรียนมาก ๆ การศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตร์สาขาที่หลายคนยังไม่ทราบ หลักสูตรนิเทศศาสตร์ สาขาที่หลายคนยังไม่ทราบแต่น่าเรียนมาก ๆ สาขาแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ สาขาการสร้างสรรค์และออกแบบสื่อ เป็นอีกสาขาวิชาในนิเทศศาสตร์ที่น่าเรียนมาก ๆ มีสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ คือ การสื่อสาร การตลาดและเรื่องของการออกแบบ มาผสมผสานกันและประยุกต์งานออกมาให้มีความน่าสนใจ หลักสูตรนิเทศศาสตร์ สาขาที่หลายคนยังไม่ทราบแต่น่าเรียนมาก ๆ สาขาที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ นิเทศศาสตร์ดิจิทัล เป็นอีกสาขาวิชาในนิเทศศาสตร์ที่มีความน่าสนใจมาก ๆ เรียนเกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานที่เป็นด้าน 3D Animation, Visual Effects และการสร้างสื่อหรือภาพยนตร์แบบแอนิเมชัน หรือการงานศิลปะ เชิงพาณิชย์ ทั้งสี แสง เสียง ต่าง ๆ…
นิเทศศาสตร์ก็เป็นอีกหลักสูตรที่หลาย ๆ คนนั้นให้ความสนใจและเป็นหลักสูตรที่มีสามาวิชาที่มากมายออกไปอีกให้เรานั้นสามารถเลือกเรียนตามความชอบ ความสามารถและความถนัด วันนี้แอดอยากที่จะมา แนะนำ 3 สาขาเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ ที่ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจสุด ๆ เด็กที่อยากเรียนสายนิเทศ ฯ ห้ามพลาด แนะนำการศึกษาสาขาเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ที่น่าเรียน สาขาเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ ที่น่าสนใจมาก ๆ สาขาแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ สาขาภาพยนตร์/เทคโนโลยีการถ่ายภาพและภาพยนต์ หรือหรือหลาย ๆ คนนั้นจะรู้จักกันดีหรือเรียนว่า สาขาภาพยนตร์หรือ ฟิล์มนั้นเอง เป็นสาขาที่เรียนรู้เกี่ยวกับ การผลิตสื่อ ทั้งภาพ สี เสียง องค์ประกอบ ต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำภาพยนต์ สาขาเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ ที่น่าสนใจมาก ๆ สาขาที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ สาขาการโฆษณา เป็นอีกสาขาที่จะศึกษาเกี่ยวกับ การวางแผนหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ ทั้งในส่วนของการตลาด การสื่อสาร รวมไปถึงการสร้างสรรค์งานโฆษณา เป็นอีกสาขาที่มีความน่าสนใจมาก ๆ สาขาเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์…
อันว่ากฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยให้ดินแดนใด กลายเป็นดินแดนที่สมบูรณ์ เพราะอำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศนั้น ประกอบไปด้วยสามส่วน นั้นก็คือ อำนาจนิติบัญญัติ(การออกกฎหมาย) อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ซึ่งหากประเทศใดไม่มีการกำหนดกฎหมายเอาไว้ชัดเจนแล้ว ใครกระทำอะไรก็ได้ก็กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และคงไม่เป็นประเทศอยู่ได้ ซึ่งกฎหมายเมื่อตราขึ้นมาแล้วก็ต้องมีโทษตามมาเพื่อใช้ลงโทษคนที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่ง โทษของกฎหมาย นั้นมีหลายแบบ แต่ที่ในเมืองไทยเราที่รู้จักกันดี จะประกอบไปด้วยสองแบบคือโทษทางอาญา และโทษทางปกครอง โทษของกฎหมายที่ความรู้ โทษของกฎหมาย นั้นก็คือโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าหากกระทำความผิดตามกฎหมายนี้จะเป็นความผิดทางอาญา ที่มีทั้งโทษปรับและจำคุก ซึ่งคำว่าโทษอาญานี้ไม่ใช่เพียงแค่กำหนดในประมวลกฎหมายอาญาเท่านั้น แต่กฎหมายอื่นใดที่ถูกมองว่าเป็นการกระทำผิดรายแรงถึงขั้นขัดต่อความสงบสุขเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีต่อบ้านเมือง ด้วยเหตุนี้เอง โทษจึงมีทั้งการจำคุกและโทษปรับ นอกจากนี้ยังมี ริบทรัพย์สิน กักขัง และโทษสูงสุดอย่างประหารชีวิต จากนั้นก็มาถึงโทษอีกแนวทางนั้นก็คือโทษทางปกครองที่มาจากกฎหมายปกครอง กฎหมายปกครองหรือกฎหมายมหาชนนั้นจะเป็นกฎหมายลักษณะเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองและกำหนดหน้าที่ต่างๆเช่นพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ที่กำหนดให้ผู้ที่ต้องการจะก่อสร้างอาคารจะต้องขออนุญาตหรือแจ้งการก่อสร้างไปยังเจ้าพนักงานท้องที่ที่ดูแลที่บริเวณนั้น ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบล เรื่อง การควบคุมกิจการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535 ที่กำหนดให้การเปิดกิจการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องขออนุญาตก่อนหากไม่ดำเนินการย่อมมีค่าปรับตามมา เป็นต้น ซึ่งโทษปรับตามกฎหมายประเภทนี้เราเรียกกันว่าโทษปรับทางปกครอง ข้อแตกต่าง โทษของกฎหมาย อีกอย่างหนึ่งก็คือโทษปรับทางอาญานั้น จะต้องดำเนินการโดยการนำเรื่องแจ้งการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อทำการพิจารณากำหนดโทษปรับทางกฎหมายอาญา…
สำหรับท่านนักอ่านที่นิยมชมชอบในการอ่านเรื่องราวตำนานเรื่องเล่า น่าจะคงพอได้ยินถึงตำนานเจ้าหญิงคางูยะ เจ้าหญิงจากดวงจันทร์ ตามตำนานนิทานโบราณของประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว สำหรับในบทความนี้เราก็ขอนำท่านไปรู้จักตำนาน ฉางเอ๋อ เทพธิดาจากดวงจันทร์ แห่งแผ่นดินจีน อีกตำนานหนึ่ง ซึ่งเป็นของประเทศจีนกันบ้าง โดยตำนานของฝั่งประเทศจีนได้มีอยู่มานาน และโบราณก่อนที่โลกจะได้มีรวมตัวกันเป็นอาณาจักรโบราณต่างๆ ในระบบสุริยะของเรามีดวงอาทิตย์มากถึง 10 ดวง ด้วยกัน แค่ดวงเดียวก็ร้อนตับแตกแล้ว นี่มีถึง 10 ดวง ทำให้คนบนโลกแทบมีชีวิตอยู่ไม่ได้ เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ทั้ง 10 ดวง มันร้องแรง ทำให้แผ่นดินร้อน น้ำก็เดือดแห้งหายไปหมด เปิดตำนานฉางเอ๋อเทพธิดาจากดวงจันทร์ จนกระทั่งได้มีสุดยอดวีรบุรุษชื่อ โฮ่วอี้ เป็นสุดยอดนักธนูได้คว้าธนูขึ้นมายิงธนูดอกเดียวกลับสามารถยิงดวงอาทิตย์ออกไป 9 ดวง อะไรมันจะสุดยอดขนาดนั้น สุดท้ายจึงเหลือดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียวให้คนเราได้เห็นเหมือนเช่นปัจจุบัน ทำให้วีรบุรุษคนนี้ได้ถูกสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองมนุษย์โลก แต่ตำนานเทพจากดวงจันทร์ยังบอกอีกว่า พอได้ขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์ เขาก็ดันเป็นทรราชหลงใหลในอำนาจสุรานารี ทำให้ประชาชนใต้การปกครองทนไม่ไหว และโกรธแค้นเขา ส่วนพระราชานักธนูกลับหนี เดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าเทพเซียน และผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลาย เพื่อขอยาอายุวัฒนะ ทำให้ตนเองมีอายุยืนนานไม่แก่ไม่ตายจากเจ้าแม่หวังหมู่ ซึ่งก็ขอมาได้สำเร็จเสียด้วย หากแต่น่าเสียดายที่ภรรยาของเขาเองที่ชื่อ ฉางเอ๋อ…
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมีความคิดว่า มหาลัยไหนดี ที่ไม่ตกงาน และบทความนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เผื่อจะตอบโจทย์กับความคิดของคุณที่ว่า มหาลัยไหนดี และบทความนี้เราจะพาคุณไปดู โรงเรียนเบญจรักษ์รวมชัย หรือชื่อเต็มว่า โรงเรียนวิชาชีพสุขภาพ เบญจรักษ์รวมชัย โรงเรียนเบญจรักษ์รวมชัย สมุทรปราการ โรงเรียนเบญจรักษ์รวมชัย โรงเรียนวิชาชีพสุขภาพ ฝึกผู้ช่วยแพทย์อยู่ที่ อ. บางบ่อ จ. สมุทรปราการ เป็นมหาวิทยาลัยรับรองหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาอย่างถูกต้อง หลักสูตรเจ้าหน้าที่ช่วยงานการแพทย์ ระยะที่เรียน 1.6 ปี โดยศึกษาในประเทศญี่ปุ่นที่ Japanese โดยหลักสูตร ภาคเรียนที่ 1 จะเรียนในเรื่องของ เรียนภาษาญี่ปุ่นระดับต้น และ พื้นฐานการแพทย์ ภาคเรียนที่ 2 เรียนภาษาญี่ปุ่นระดับกลางและวิชาหัตการ ภาคเรียนที่ 3 จะเรียนภาษาญี่ปุ่นในระดับสูงและดูงานฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยจะเป็นการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ทำงานที่โรงพยาบาลที่ประเทศญี่ปุ่น 3-5 ปี รายได้ประมาณ 200,000 บาท ถือว่าเป็นมหาลัยที่ดีเลยทีเดียว…
ในช่วงหน้าประวัติศาสตร์ของการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสงครามขนาดใหญ่ที่ลามไปเกือบทั่วทุกประเทศทั่วโลกแม้แต่ประเทศไทยเรา เมื่อฝ่ายกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นจับมือกับกองทัพนาซีเยอรมันกระจายอำนาจออกไปยังประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปและตะวันตก มันทำให้สองฟากฝั่งอย่างโซเวียตและฝั่งสัมพันธมิตรนำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องจับมือเป็นพันธมิตรกันชั่วคราวเพื่อต่อสู้กับศัตรูอันแข็งแกร่งทั้งสองประเทศ และเหตุการณ์หนึ่งซึ่งมักเป็นที่จดจำในสงครามโลกครั้งที่ 2 มักจะถูกหยิบยกแทบทุกครั้ง เมื่อกล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้ง ไม่ว่าจะทำภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ครั้งไหน ก็มักจะกลายเป็นฉากสำคัญที่ถูกนำมาสร้างกันอยู่เสมอ นั่นก็คือ การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ หรือ ยุทธการเพิร์ลฮาร์เบอร์ สงครามโลกครั้งที่ 2 กับการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ของญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มากนัก แต่ก็มักจะเคยได้ยินเรื่อง การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ในภาพยนตร์เรื่องเล่าบ่อยครั้ง อาจจะสงสัยว่ารายละเอียดของเหตุการณ์มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะคนส่วนใหญ่จะรู้เพียงว่ากองทัพญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ ซึ่งเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่บนเกาะฮาวายเท่านั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสาเหตุมันเริ่มมาจากที่จักรวรรดิญี่ปุ่นในขณะนั้นได้ส่งกำลังรบที่สะสมไว้มานาน บุกเข้ายึดครองแมนจูเรีย หรือก็คือดินแดนประเทศจีน ที่มีราชวงศ์ชิงปกครองอยู่ จากนั้นก็ตั้งจักรพรรดิปูยี ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง ขึ้นครองราชย์เป็นหุ่นเชิด เหตุผลก็เพราะจักรวรรดิญี่ปุ่นต้องการแสวงหาทรัพยากรต่างๆ ในประเทศจีนนั่นเอง หากแต่ประเทศจีนในช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังกล่าว ก็แบ่งฝักฝ่ายเป็นหลายฝ่าย รวมทั้งได้มีฝ่ายหนึ่งยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือไปยังสันนิบาตชาติ ซึ่งแน่นอนทางสันนิบาตชาติ ได้ตัดสินให้จักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ตามคำฟ้อง และให้ถอนกำลังออก…
ในปัจจุบันแม้ว่าเทคโนโลยีของมนุษย์จะก้าวล้ำนำหน้าไปไกลมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างดาวเทียมและยานอวกาศที่ขึ้นไปสำรวจได้ถึงดวงจันทร์ อีกทั้งยังมีข่าวว่าจะข้ามไปทำโครงการสร้างที่พักอาศัยที่ดาวอังคาร หากแต่สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา แต่เราอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนนั่นก็คือประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมนุษย์บนโลกนั้นมีมายาวนานมากแค่ไหนกันแน่ ซึ่งคำตอบก็ยังไม่แน่ชัด เพราะยิ่งสืบค้นเท่าไหร่ก็ยังมีซากโบราณสถานต่างๆ ให้เราได้พบเจอ ซึ่งเก่าแก่มากกว่าที่เราคิดทุกที หนึ่งในโบราณสถานเก่าแก่และสร้างความตื่นตกใจให้กับโลกนั่นก็คือ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ความเป็นมาของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ โดย สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ นี้ได้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคมปีพ.ศ 2517 แต่ไม่ได้เกิดจากการค้นหาของนักโบราณคดีแต่อย่างใด หากแต่สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้กลับถูกค้นพบโดยชาวนาคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสียาง ในขณะที่เขากำลังขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำอยู่ในเชิงเขาแห่งหนึ่งหาจากเมืองซีอานไปไม่ไกลกลับค้นพบกับทหารรูปปั้นซึ่งสร้างมาจากดินเผา ทำให้นับแต่วันนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทางรัฐบาลจีนได้ทำการขุดค้นโบราณสถานดังกล่าว และทราบในเวลาต่อมาว่านั่นคือสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้มหาบุรุษผู้ได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิปกครองแผ่นดินจีนพระองค์แรก โดย สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ นั้นถือเป็นมหาสุสานอันยิ่งใหญ่สมกับความเป็นองค์พระจักรพรรดิ เพราะสามารถค้นพบโบราณวัตถุไม่ว่าจะเป็นทหารดินเผาอาวุธยุทโธปกรณ์รถม้า และม้าศึกซึ่งว่ากันว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ได้ใช้ในการรบ และปราบปรามรวบรวมแคว้นต่างๆ ให้กลายเป็นแผ่นดินจีนอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งสิ่งของแต่ละชิ้นต่างมีอายุมากกว่า 2,000 ปี แล้ว และจากการขุดค้นสำรวจพบว่าอาณาเขตของสุสานน่าจะมีมากกว่า 2,180 ตารางกิโลเมตรอีกด้วย จากคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมหาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้องค์นี้ ทำให้มันได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ซึ่งนักโบราณคดีได้เรียนรู้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณของสุสาน ตามความเชื่อและทัศนคติของจีนโบราณที่จิ๋นซีฮ่องเต้ เมื่อสิ้นพระชนม์ลงแล้วจะต้องมีข้าราชบริพารติดตามพระองค์ไปยังโลกหลังความตายด้วย ซึ่งก็คือเหล่าทหารปั้นดินเผาเท่ากับตัวคนจริงๆ นี้ แถมด้วยห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นที่บรรจุพระศพซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของมหาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่ว่ากันว่า มีขนาดใหญ่โตเท่ากับสนามฟุตบอลที่เราใช้แข่งขันฟุตบอลอยู่ในปัจจุบัน เท่านี้ยังไม่พอ…