Month: April 2021

เทคนิคลดความเครียด ของเด็กวัยเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคลดความเครียด ของเด็กวัยเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าคุณกำลังอยู่ในวัยเรียน ก็ย่อมต้องประสบกับปัญหาความเครียดที่มาจากการเรียน ดังนั้นสมองของคุณจึงไม่ค่อยผ่อนคลาย และความตึงเครียดก็จะส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองโดยตรง ดังนั้นวิธีที่จะเสริมสร้างการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้น ก็คือการกำจัดความเครียด ซึ่งในที่นี้ขอแนะนำ เทคนิคลดความเครียด วิธีผ่อนคลายความเครียด แบบที่เป็นธรรมชาติ ทำง่าย และเหมาะกับเด็กนักเรียนนักศึกษาอย่างยิ่ง แนะนำ เทคนิคลดความเครียด ของเด็กวัยเรียน แบบที่เป็นธรรมชาติ เทคนิคลดความเครียดผ่อนคลายสมองจากการเรียนด้วยดนตรีเพราะๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรีแบบมีทั้งเนื้อร้องและทำนอง หรือมีแต่ทำนองอย่างเดียว หากเป็นแบบที่เราชอบแล้ว เชื่อได้เลยว่าเราย่อมยิ้มได้ และความสุขในโลกส่วนตัวก็ย่อมเกิด จึงไม่น่าแปลกที่หลายคนมักจะพกพาดนตรีไปกับเขาทุกที่ เพราะดนตรีจะช่วยคลายทุกข์ ลดความเครียด และทำให้จิตใจเบิกบานได้ ขอแนะนำว่าคุณควรเลือกประเภทดนตรีในแบบที่ชอบ และในช่วงที่เครียดมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงอ่านหนังสือสอบ ก็ควรเลือกฟังดนตรีแบบที่เสียงไม่ดังมาก หรือไม่หนวกหูจนเกินไป เพราะเสียงที่ดังมากอาจทำให้ตื่นก็จริง แต่ก็จะกระตุ้นให้เครียดมากขึ้นด้วย เทคนิคลดความเครียดบรรเทาความเครียดจากการเรียนด้วยการกินแก้เครียด เด็กนักเรียนนักศึกษามักมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบ เพราะมักจะกินมากเป็นพิเศษ พอเครียดปุ๊บก็กินปั๊บ คิดว่าการกินนี่แหละที่จะช่วยให้หายเครียดได้ทันที แต่ใช่ว่าอาหารทุกชนิดจะเหมาะสำหรับคลายเครียด อาหารที่ควรเน้นกินมากที่สุดในช่วงที่ใช้สมองมาก ๆ ก็คือ อาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งจะช่วยบำรุงระบบประสาท ป้องกันอาการซึมเศร้า และบรรเทาอาการเครียดได้ด้วย  โดยพบได้มากในอาหารต่าง…

การออกกำลังกาย ของเด็กวัยเรียน

การออกกำลังกาย ของเด็กวัยเรียน ช่วยพัฒนาสมอง เสริมสร้างความจำ

คุณอาจเคยบริหารแขนขา บริหารรูปร่างให้สวยงามด้วยการออกกกำลังกาย หรือ  Exercises แล้ว แต่รู้ไหมว่า สมองของเราก็ต้องการการบริหารเช่นกัน เพื่อช่วยให้สมองมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียน การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้เขามีสุขภาพที่แข็งแรง และช่วยกระตุ้นการเติบโตของร่างกายแล้ว การออกกำลังกาย ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี การออกกำลังกาย ดีต่อสมองเพราะอะไร   การออกกำลังกายช่วยพัฒนาสมองซีกขวา ออกกำลังกายยังดีต่อสุขภาพของสมองอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อเราออกกำลังกาย ก็จะช่วยพัฒนาสมองซีกขวา ที่เป็นส่วนสำคัญในการจินตนาการสร้างสรรค์ ทำให้เรามีไอเดียใหม่ๆ เสมอ ดังนั้นหากได้ออกกำลังกายบ่อย ๆ เราก็จะสดชื่นและรู้สึกว่าสมองรับสิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอด การออกกำลังกายช่วยทำให้สมองทั้งสองซีกทำงานร่วมกันได้ดี การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสมองซีกขวาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การทำงานของสมองทั้งสองซีกสอดประสาน ทำงานสัมพันธ์กันได้ดีขึ้น เนื่องจากเมื่อเราได้ออกกำลังกาย โดยฉพาะการออกกำลังกายแบบที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาค่อนข้างนาน ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งสมองซีกให้ทำงานร่วมกันได้ดี การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ การออกกำลังกายยังช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดการเรียนรู้ และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่เด็กวัยเรียนที่มีความผิดปกติทางสมองในระดับที่เรียนรู้ได้ หากได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยกระตุ้นให้สมองมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แม้จะใช้เวลานานกว่าเด็กปกติ แต่ก็จะเกิดการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ การออกกำลังกายช่วยพัฒนาสมองช่วยเรื่องการเรียน การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ระบบการสื่อสารดี ทั้งในการพูด การเขียน และการอ่าน ช่วยกระตุ้นสมองในด้านการสั่งการเพื่อให้เกิดความสมดุล ทำให้การเคลื่อนไหวคล่องตัว…

เทคนิคการอ่านหนังสือ ให้เข้าใจง่าย จำได้ไม่ลืม และรู้จักประยุกต์ใช้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคการอ่านหนังสือ ให้เข้าใจง่าย จำได้ไม่ลืม และรู้จักประยุกต์ใช้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เด็กนักเรียนนักศึกษามักจะมีปัญหาเรื่องการอ่านหนังสือแล้ว จำไม่ค่อยได้ อ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือจำได้แต่ก็ไม่เก่งพอจะประยุกต์ใช้ ดังนั้นมาลองดู เทคนิคการอ่านหนังสือ ที่จะแนะนำต่อไปนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าการอ่านหนังสือไม่ใช่เรื่องยากเย็น แค่ต้องเปลี่ยนมุมมองการอ่านเสียใหม่ เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนอีกต่อไป                แนะนำ 4 เทคนิคการอ่านหนังสือ อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคการอ่านหนังสือเพื่อสอบอ่านแบบเร็ว ๆ การอ่านหนังสือเพื่อสอบ หากอ่านหนังสือเล่มหนามากทุกวิชาคงไม่ไหว ดังนั้นการอ่านแบบเร็ว ๆ ข้าม ๆ เลือกดูเฉพาะจุดที่คิดว่าสำคัญก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องพะวงเสียเวลากับข้อมูลที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะวิชาภาอังกฤษการอ่านข้าม ๆ ก็จะทำให้เกิดทักษะในการสะกดคำหรือการอ่านได้ไปเอง โดยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า คำนั้นสะกดคำอย่างไร แต่เมื่อเราลองเขียนก็มักจะเขียนได้ถูกต้อง หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง ซึ่งการฝึกทักษะนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆ  เพราะสมองของเด็กจะเรียนรู้ได้ไว คือจะเกิดการเรียนรู้ไปเองทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้หลักการการอ่านด้วยซ้ำ เช่น ในภาษาฝรั่งเศส bonjour แปลว่าสวัสดียามเช้า อ่านว่า บง-ชูร์ จากนั้นเมื่อเราได้รู้แล้วว่าคำนี้อ่านเช่นนี้ เมื่อเราไปเจอศัพท์อีกคำที่สะกดคล้ายกัน เราก็จะอ่านได้เองโดยอัตโนมัติ เช่น เราไปเจอคำว่า Mouchoir ที่แปลว่าผ้าเช็ดหน้า…

คนถนัดซ้าย สมอง และแนวโน้ม เรื่องการเรียน เป็นอย่างไร

คนถนัดซ้าย สมอง และแนวโน้ม เรื่องการเรียน เป็นอย่างไร

คนในโลกส่วนใหญ่ มักจะถนัดขวามากกว่าซ้ายหลายเท่า ดังนั้นเราจึงมองว่าคนที่ถนัดซ้ายมีความแตกต่างจากเรา หรือพิเศษกว่าคนทั่วไป ซึ่งเรื่องความถนัดของมือซ้ายนี้หลายคนมักยังไม่รู้ข้อมูล และมีความลับของคนถนัดมือซ้ายอีกมากมายที่จะทำให้คุณแปลใจ ยิ่งถ้าคุณเป็น คนถนัดซ้าย ที่อยู่ในวันศึกษาเล่าเรียน ก็ควรสนใจเรื่องนี้อย่างยิ่ง เพราะสามารถทำนายแนวโน้มเรื่องการเรียนจากมือซ้ายข้างถนัดของคุณได้ แนวโน้ม เรื่องการเรียนของ คนถนัดซ้าย คนถนัดซ้ายเรียนวิชาที่สนใจได้ดี เชื่อกันว่าถ้าคนถนัดซ้ายสนใจเรื่องราว หรือวิชาใดเป็นพิเศษ เขาจะเป็นอัจฉริยะในวิชานั้นไปเลย เนื่องจากเขาจะลงลึกจนถึงขั้นหมกมุ่นเลยทีเดียว คนถนัดซ้ายจะมีพรสวรรค์ บ่อยครั้งที่คนถนัดซ้ายไม่ได้มีพื้นฐานในวิชา หรือทักษะนั้น ๆ มาก่อนเลย แต่ในครั้งแรกเขาก็ทำได้ดีจนน่าตกใจ เหมือนคนที่มีพรสวรรค์ติดตัวมาแต่เกิด คนถนัดซ้ายจะมีไอคิวสูง ถ้ามีการวัดไอคิว คนถนัดซ้ายมักจะไอคิวเฉลี่ยสูงกว่าคนที่ถนัดขวา แต่แม้คนถนัดซ้ายที่มีไอคิวต่ำ เขาก็มีความสนใจพิเศษ หรือเรียนบางเรื่องได้ดี คนถนัดซ้ายจะเรียนรู้ได้หลายอย่าง คนที่ถนัดซ้ายจะมีความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ หลายอย่างพร้อมกัน และทำได้ดีมาก ซึ่งเขาจะมักจะไม่เกิดความสับสน หรือหลงลืมสิ่งที่เคยเรียนรู้มาก่อน คนถนัดซ้ายจะทำโจทย์ยาก ๆ ซับซ้อนได้ ถ้ามีข้อสอบหรือโจทย์ยาก ๆ ที่มีความซับซ้อน ก็ต้องส่งมาให้คนถนัดซ้ายเลย เพราะเขาจะมีกระบวนการคิดที่แตกต่างสร้างสรรค์กว่าคนอื่น และเขามักจะมีวิธีคิดที่ไม่เหมือนคุณครูสอน คนดังที่ถนัดมือซ้าย สิงห์อีซ้ายที่มีชื่อเสียง…

การเรียนรู้แบบ New Normal บ้านและการเรียนรู้ในยุคโควิด 19

การเรียนรู้แบบ New Normal บ้านและการเรียนรู้ในยุคโควิด 19

“บ้านคือโรงเรียนแห่งแรก พ่อแม่คือครูคนแรก” จากคำกล่าวข้างต้น พบได้ชัดเจนในช่วง โควิด 19 เนื่องจากเหล่าน้อง ๆ หนู ๆ ต้องปรับเปลี่ยนการเรียนในชั้นเรียนเป็นการเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็น การเรียนรู้แบบ New Normal ซึ่งสิ่งที่ยากจะควบคุมมาก ระหว่าง สมาธิของเด็กวัยนี้ กับการจดจ่อในการเรียนออนไลน์ ผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมตลอดทั้งวัน ต่างจากบรรยากาศการเรียนในชั้นเรียนอย่างสิ้นเชิง การเรียนรู้แบบ New Normalการศึกษาที่เหมาะ ในยุคโควิด 19 การปิดโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนเรียนออนไลน์จากที่บ้าน การเรียนรู้แบบ New Normalส่งผลกระทบต่อนักเรียนและผู้ปกครองอย่างมาก โดยเฉพาะ เด็กอนุบาล และเด็กประถม เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถอยู่บ้านคนเดียวหรือไม่สามารถเรียนรู้ออนไลน์ด้วยตัวเองได้ มีหลายวิธีที่ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนการเรียนรู้ของบุตรหลานด้วยกิจกรรมง่ายๆราคาประหยัด เช่นการอ่านหนังสือ หรือการร้องเพลงกล่อมเด็กเป็นประจำ ซึ่งสามารถสนับสนุนทักษะภาษาขั้นพื้นฐานของพวกเขาได้ หรือการนำเสนอประสบการณ์ต่าง ๆ รอบตัวเรา เช่นการสำรวจชุมชนในท้องถิ่น สามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้ อยากเห็น และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโลก ได้เป็นอย่างดี และสนับสนุนด้านทักษะวิชาการให้เชื่อมโยงกับการใช้ชีวิต เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และการพัฒนาทางกายภาพ เป็นการเรียนรู้ทั้งการปฏิบัติ…

แมงมุมเพื่อนรัก (Charlotte’s Web) วรรณกรรมเยาวชน หนังสืออ่านนอกเวลา

แมงมุมเพื่อนรัก (Charlotte’s Web) วรรณกรรมเยาวชน หนังสืออ่านนอกเวลา

วรรณกรรมเรื่องแมงมุมเพื่อนรัก ได้รับการตีพิมพ์เกินกว่าถึง 45 ล้านเล่ม และยังมีการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 23 ภาษา  นอกจากนี้วรรณกรรมเรื่อง แมงมุมเพื่อนรัก ยังได้รับรางวัลนิวเบอรี่ (The Newberry Medal) ซึ่งถือเป็นรางวัลออสการ์แห่งวงการวรรณกรรมเยาวชนเหรียญเงิน (Honor) และทางนิตยสาร TIME นิตยสารระดับโลกฉบับก็ได้ยกย่องให้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ดีที่สุดในศตวรรษ (ปี 1999) เรื่องย่อวรรณกรรมเรื่อง แมงมุมเพื่อนรัก ตัวละครเอกของเรื่องแมงมุมเพื่อนรักคือแม่แมงมุมที่ชื่อ “ชาร์ล็อต” ซึ่งเธอได้ช่วยชีวิตลูกหมูชื่อว่า “วิลเบอร์” เพื่อไม่ให้เจ้าหมูถูกฆ่าเป็นอาหาร โดยการออกอุบายเพื่อทำให้เจ้าหมูกลายเป็นเจ้าหมูวิเศษ ซึ่งชาร์ล็อตได้ชักใยเป็นตัวอักษรว่า “หมูพิเศษ” เมื่อชาวบ้านมาเห็นจึงตกใจและลือกันไปทั่วว่าเจ้าหมูนี้เป็นหมูมหัศจรรย์ นี่เองจึงทำให้มันรอดจากการกลายเป็นเบคอน และทั้งสองก็ได้สานสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันเรื่อยมา  และพบเจอกับประสบการณ์การผจญภัยต่าง ๆ จนใกล้วาระสุดท้ายของแมงมุมอย่างชาร์ล็อต ที่แม้ว่าเจ้าหมูจะเอาแต่บอกว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อชาร์ล็อตเลย แต่ชาร์ล็อตกลับบอกว่าสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่สิ่งใดเลยนอกจากมิตรภาพดี ๆ ที่เจ้าหมูมอบให้เธอ และเมื่อถึงวันที่ชาร์ล็อตจากไปตามอายุขัย เจ้าหมูก็เศร้ามาก แต่มันก็ไม่ได้เศร้านานนัก เพราะชาร์ล็อตได้ทิ้งลูก ๆ ของเธอให้เป็นเพื่อนกับเจ้าหมูน้อยนั่นเอง ข้อคิดที่ได้จากวรรณกรรมเรื่องแมงมุมเพื่อนรัก -มิตรภาพระหว่างเพื่อนคือสิ่งสวยงามที่เราควรรักษาให้ยืนยาวต่อไป…

วินนีเดอะพูห์ (Winnie the Pooh) วรรณกรรมเยาวชน อบอุ่นหัวใจ สะท้อนแนวคิดแบบเด็ก ๆ ที่ตัวละครสร้างจากชีวิตจริง

วินนีเดอะพูห์ (Winnie the Pooh) วรรณกรรมเยาวชน อบอุ่นหัวใจ

ผู้เขียนเรื่องวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง วินนีเดอะพูห์ Winnie the Pooh คือ เอ.เอ. มิลน์ (A.A. Milne) ผู้ซึ่งนำตัวละครมาจากชีวิตจริงของเขา โดยเขาได้นำชื่อลูกชายคือ คริสโตเฟอร์ โรบิน มาเป็นตัวละครหลัก ซึ่งเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในเรื่อง และนำคาแรกเตอร์หมีพูห์มาจากหมีชื่อดังในกองทัพที่ได้รับตัวมาอยู่ในสวนสัตว์ และต่อมาเมื่อคริสโตเฟอร์ โรบิน เห็นเจ้าหมีตัวจริงที่สวนสัตว์ ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจจนเปลี่ยนชื่อตุ๊กตาของตนมาเป็นชื่อ “วินนี” ส่วนคาแรกเตอร์บรรดาสัตว์อื่น ๆ ในป่าก็ได้จากตุ๊กตาของลูกชายเขานั่นเอง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าแม้วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้จะอบอุ่นหัวใจสักเพียงใด แต่ในชีวิตจริงของผู้เขียน ความสัมพันธ์ของเขากับลูกชายไม่สู้จะดีนัก เพราะคริสโตเฟอร์ โรบินในชีวิตจริงไม่ได้มีความสุขกับชื่อเสียงที่ได้จากพ่อของเขา และตัวพ่อเขาเองก็เป็นคนค่อนข้างเย็นชา ไม่ได้สนิทสนมกับลูกหรือให้เวลาครอบครัวเท่าที่ควร เรื่องย่อ วรรณกรรมเยาวชน ที่มาจากชีวิตจริง วินนีเดอะพูห์ ตัวละครหลักของเรื่องวินนีเดอะพูห์คือหมีพูห์ ที่มีนิสัยใสชื่อ ไร้เดียงสา ชอบคิดอะไรแปลก ๆ แก้ปัญหาด้วยวิธีการแบบเด็ก ๆ ขณะที่พิกเล็กหมูน้อยก็ขี้กลัว คอยตามหลังหมีพูห์แจ แต่ก็มีความน่ารักสดใส จะมีความเชื่อมั่นต่อเมื่อมีพูห์อยู่ใกล้ ๆ ทิกเกอร์เจ้าเสือผู้ชอบกระโดดโลดเต้น ขี้อวด…

ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต วรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกตลอดกาล

ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต วรรณกรรมเยาวชน สุดคลาสสิก ตลอดกาล

โรอัลด์ ดาห์ล คือนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนที่เขียนเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต นี้ และยังเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 50 วรรณกรรมที่เด็กควรจะต้องอ่านก่อนโต เรื่องย่อชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต เนื้อเรื่องโดยย่อของชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลตวรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกตลอดกาลเริ่มต้นเรื่องจากเด็กชายชาร์ลีผู้ยากจนคนหนึ่ง โชคดีได้ตั๋วเยี่ยมชมโรงงานช็อกโกแลตจากห่อช็อกโกแลตที่เขาซื้อ และเขาก็เลือกปู่ของเขาให้ได้สิทธิ์ไปเยี่ยมชมโรงงานกับเขา ซึ่งที่โรงงานทำช็อกโกแลตนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกผู้เข้าชมมาก เพราะไม่เพียงแต่โรงงานจะผลิตช็อกโกแลตและขนมหวานเท่านั้น แต่ขั้นตอนการผลิตยังต่างจากโรงงานทั่วไปอย่างเหลือเชื่อ เนื่องจากมีความแฟนตาซีเกินกว่าจะจินตนาการได้ ดังเข้าไปในโลกแห่งความฝัน ซึ่งผู้สร้างฝันนี้ก็คือเจ้าของโรงงานสุดเพี้ยน ชื่อว่า วิลลี่ วองก้า และการเชิญเด็ก ๆ และผู้ปกครองมาเยี่ยมชมโรงงานครั้งนี้เขาก็มีแผนการอยู่แล้ว จนท้ายที่สุดจากชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลตวรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกตลอดกาลนี้ เด็ก ๆ และพ่อแม่ที่ทำตัวไม่น่ารักก็ถูกเชิญให้ออกไปก่อนจบการเยี่ยมชม จนกระทั่งเหลือแค่เด็กชายชื่อชาร์ลี ซึ่งวิลลี่ วองก้า ก็ได้เฉลยว่าผู้ที่อยู่เป็นคนสุดท้ายจะได้รางวัลใหญ่ นั่นก็คือกุญแจโรงงาน เพื่อให้ชาร์ลีได้สืบทอดโรงงานนี้ต่อจากเขา เพราะชาร์ลีคือเด็กที่มีความพิเศษ…