ตำนาน

ฉางเอ๋อ เทพธิดาจากดวงจันทร์

เปิดตำนาน “ฉางเอ๋อ” เทพธิดาจากดวงจันทร์ แห่งแผ่นดินจีน

สำหรับท่านนักอ่านที่นิยมชมชอบในการอ่านเรื่องราวตำนานเรื่องเล่า น่าจะคงพอได้ยินถึงตำนานเจ้าหญิงคางูยะ เจ้าหญิงจากดวงจันทร์ ตามตำนานนิทานโบราณของประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว สำหรับในบทความนี้เราก็ขอนำท่านไปรู้จักตำนาน ฉางเอ๋อ เทพธิดาจากดวงจันทร์ แห่งแผ่นดินจีน อีกตำนานหนึ่ง ซึ่งเป็นของประเทศจีนกันบ้าง โดยตำนานของฝั่งประเทศจีนได้มีอยู่มานาน และโบราณก่อนที่โลกจะได้มีรวมตัวกันเป็นอาณาจักรโบราณต่างๆ ในระบบสุริยะของเรามีดวงอาทิตย์มากถึง 10 ดวง ด้วยกัน แค่ดวงเดียวก็ร้อนตับแตกแล้ว นี่มีถึง 10 ดวง ทำให้คนบนโลกแทบมีชีวิตอยู่ไม่ได้ เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ทั้ง 10 ดวง มันร้องแรง ทำให้แผ่นดินร้อน น้ำก็เดือดแห้งหายไปหมด เปิดตำนานฉางเอ๋อเทพธิดาจากดวงจันทร์ จนกระทั่งได้มีสุดยอดวีรบุรุษชื่อ โฮ่วอี้ เป็นสุดยอดนักธนูได้คว้าธนูขึ้นมายิงธนูดอกเดียวกลับสามารถยิงดวงอาทิตย์ออกไป 9 ดวง อะไรมันจะสุดยอดขนาดนั้น สุดท้ายจึงเหลือดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียวให้คนเราได้เห็นเหมือนเช่นปัจจุบัน ทำให้วีรบุรุษคนนี้ได้ถูกสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองมนุษย์โลก แต่ตำนานเทพจากดวงจันทร์ยังบอกอีกว่า พอได้ขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์ เขาก็ดันเป็นทรราชหลงใหลในอำนาจสุรานารี ทำให้ประชาชนใต้การปกครองทนไม่ไหว และโกรธแค้นเขา ส่วนพระราชานักธนูกลับหนี เดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าเทพเซียน และผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลาย เพื่อขอยาอายุวัฒนะ ทำให้ตนเองมีอายุยืนนานไม่แก่ไม่ตายจากเจ้าแม่หวังหมู่ ซึ่งก็ขอมาได้สำเร็จเสียด้วย หากแต่น่าเสียดายที่ภรรยาของเขาเองที่ชื่อ ฉางเอ๋อ…

เรียนรู้เรื่องราว วันดีเดย์กับการ ยกพลขึ้นบก เพื่อโจมตีจุดยุทธศาสตร์ของศัตรู

เรียนรู้เรื่องราว วันดีเดย์กับการ ยกพลขึ้นบก เพื่อโจมตีจุดยุทธศาสตร์ของศัตรู

ในช่วงหลายสัปดาห์นี้ผู้อ่านหลายท่าน น่าจะพอได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับการสงคราม กรณีที่ ประเทศจีนได้มีเรื่องพิพาทกับทางเกาะใต้หวัน และได้มีการซ่อมรบทำสงคราม ในการ ยกพลขึ้นบก เพื่อยึดพื้นที่ มันทำให้มีการ่ำลือว่าอาจจะเกิดการทำสงครามรวมประเทศ ที่จีนต้องการจะล้มล้างเกาะใต้หวัน ซึ่งที่จริงก็คือดินแดนของคนเชื้อชาติจีนเอง หากแต่เกิดจากการที่นายพลเจียงไคเช็ค ที่พ่ายแพ้สงครามในจีน ได้ทำการอพยพผู้คนมาตั้งดินแดนตนเองในใต้หวันแห่งนี้ การยกพลขึ้นบกกลยุทธ์การทำสงครามที่มีมานาน จะว่าไปแล้วการ ยกพลขึ้นบก เพื่อโจมตีจุดยุทธศาสตร์ของศัตรูไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นกลยุทธ์การทำสงครามที่ดูจะมีมานานแล้วด้วยซ้ำ แต่ที่จีนยังคงแนวทางนี้อยู่ก็เพราะต้องการจะยึดใต้หวันเป็นของจีนแผ่นดินเดียว ไม่ใช่แค่การยิงถล่มเท่านั้น ทำให้จำต้องใช้แนวทางการทำสงครามเน้นการส่งกำลังพลเข้ายึดครองพื้นที่ให้ได้ ซึ่งเมื่อเราพิจารณาแล้ว การยกพลขึ้นบกในครั้งที่เป็นที่จดจำมากที่สุด เป็นเหตุการณ์ยกพลขึ้นบกที่ชายหาดนอร์มังดี ของประเทศฝรั่งเศส  ของกองกำลังทหารพันธมิตร เพื่อแย่งเอาประเทศพื้นที่ฝรั่งเศสกลับคืนมาจากนาซีเยอรมัน  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรียกกันว่าวันดีเดย์ มันเป็นการสงครามที่ทั้งทัพบก ทัพเรือ และอากาศ ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันอย่างดุเดือด เพื่อทำการยกพลขึ้นหาดให้ได้ ในขณะที่ฝ่ายนาซีก็ตั้งรับด้วยเครื่องกรีดขวางมากมาย แม้ว่าจะมีการยิงช่วยเหลือของเรือ แต่ทหารในสงครามการ ยกพลขึ้นบก ก็เสียหายหนักจากจากยิงป้องกันแนวหาดของนาซีที่ตั้งรับรออยู่ และยุทธการณ์สงครามยกพลขึ้นบกเริ่มขึ้นจากการได้ให้ทหารกระโดดร่มหลังแนวรบ เพื่อจัดการกับแนวป้องกันบางส่วน และเรือรบนับพันลำก็ส่งทหารเข้าประชิดยกพลขึ้นบกที่ชายหาดนอร์มังดีในเช้าของ6 เดือน มิถุนายน 1944 ด้วยการที่ฝั่งนาซีคิดว่าเป็นการโจมตีเล็กน้อยทำให้ไม่ได้ระดมพลมามากกว่านี้ แต่กลับถูกกองทัพแบบเต็มรูปแบบของฝ่ายศัตรู ยกพลขึ้นบก…

ตำนานพญานาค ในพุทธศาสนาสู่บั้งไฟปริศนา แห่งลุ่มน้ำโขงของไทยและลาว

ตำนาน ภูติผี วิญญาณ และตำนานสัตว์ประหลาด หรือสัตว์วิเศษ ถือเป็นตำนานที่มีอยู่ในทั่วทุกถิ่นทุกที่   ที่มีมนุษย์อยู่ ซึ่งอาจเป็นตำนานประจำท้องถิ่น และตำนานที่มีอยู่ในศาสนาต่าง ๆ  หนึ่งในตำนานสัตว์วิเศษที่ปรากฏทั้งในศาสนาฮินดู และพุทธศาสนาก็คือสัตว์กึ่งเทพที่มีร่างกาย หน้าตา คล้ายกับมังกรจีนโบราณในตำนาน ซึ่งตำนานกล่าวว่าพวกเขามีอำนาจบารมีมากจนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ ซึ่งปกติจะอาศัยอยู่ในถ้ำใต้แม่น้ำ และในช่วงที่พระพุทธเจ้ายังไม่ปรินิพาน ได้มีพญานาคตนหนึ่งที่มีความเคารพนับถือในพระพุทธศาสนาได้แปลงร่างตนเป็นมนุษย์มาบวช แต่ในเวลาต่อมาก็ถูกจับได้  จึงต้องสึกเพราะมีแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะบวชได้ ทำให้มีการบวชเป็นนาคก่อนจะบวชเป็นพระสงฆ์ในเวลาต่อมาเพื่ออุทิศบุญกุศลของเหล่าพญานาคที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็น ตำนานพญานาค ที่คนที่นับถือศาสนาพุทธในประเทศไทยต่างทราบกันดี ตำนานพญานาคแถบลุ่มแม่น้ำโขงของไทยและลาว โดยในแถบลุ่มแม่น้ำโขงของประเทศไทยกับลาวในตอนนี้เอง ก็มี ตำนานพญานาค เล่าสืบต่อกันมาว่า เป็นแหล่งที่อยู่ของพญานาคทั้งหลาย และมีตำนานบอกสืบสานเรื่องราวถึงพญานาคที่เคยปรากฏตัวในบริเวณนี้มากมายหลายเรื่อง และตำนานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนั้นก็คือ ในช่วงหลายปีก่อนหน้าที่จะได้มีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ มีการปรากฏของดวงไฟกลม ๆ ส่องแสงลอยขึ้นมาจากแม่น้ำโขงขึ้นไปในอากาศ หลายสิบจนไปถึงนับพันลูก ในช่วงวันออกพรรษา หรือ 15 คำ เดือน 11 ของทุกปี ซึ่งไม่ทราบว่าเริ่มมีมาตั้งแต่ตอนไหน และใครเป็นคนทำ แต่มีความเชื่อว่ามันเกิดจากพญานาคในตำนานที่อยู่ในแม่น้ำโขงได้แสดงพลังสร้างลูกไฟที่ชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค” ขึ้น เป็นสัญลักษณ์เพื่อเคารพบูชาพระพุทธเจ้าในวันออกพรรษาของทุกปี…