ในยุคสมัยที่การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นทุกวัน เพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งที่แย่ให้ดีขึ้น หรือสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านการศึกษาก็เช่นกัน เพื่อนๆอาจจะเห็น คุณครูที่โรงเรียน จัดกิจกรรมต่างๆหรือมีเทคนิคการสอนต่างๆที่แปลกใหม่ โดยหวังเพื่อเปลี่ยนแปลกการสอนแบบเก่าๆที่น่าเบื่อและสร้างบรรยากาศในห้องเรียนที่ดีขึ้น เพื่อหวังให้นักเรียนเกิดความไม่เบื่อหน่ายกับบรรยากาศและรูปแบบการสอนแบบเดิมๆ ที่จะเจอในการสอนแบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” ( Flipped Classroom ) ฉีกกฎการเรียนการสอนทุกรูปแบบนั้น เดิมที่มีมานานแล้วครับ
ห้องเรียนกลับด้าน ( Flipped Classroom )
โดยการสอนแบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” ( Flipped Classroom ) นั้น คือการสอนรูปแบบใหม่ โดยสลับกับรูปแบบการสอนแบบเดิมๆ คือ“ให้นักเรียนกลับไปเรียนรู้และศึกษาเนื้อหากับเรื่องที่เรียนจากหนังสือเรียน แล้วนำข้อมูลเนื้อหาที่ศึกษาจากที่บ้านนั้นกลับมาทำการบ้านที่โรงเรียนในวันที่ครูผู้สอนนัดไว้” โดยจากผลของการวิจัยและทดลองใช้ในการเรียนการสอนกับนักเรียนแล้ว และผลออกมาเป็นที่น่าพอใจพอสมควร แต่การสอนแบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” ( Flipped Classroom ) นั้นยังช่องโหว่และจุดอ่อนอยู่บ้าง คือสภาพแวดล้อมของนักเรียนแต่ละคนนั้นยังคงมีความแตกต่างกันอยู่เยอะพอสมควร ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำของตัวเด็กนักเรียนเอง ดังนั้นการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านนั้นจึงสามารถใช้ได้แค่บางวิชาเท่านั้น หรือบางโอกาสเท่านั้น แต่เราก็ยังคงพบเห็นการเรียนการสอนแบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” ( Flipped Classroom ) นั้นอยู่เสมอในยุคการสอนแบบปัจจุบัน ที่ครูผู้สอนนั้นได้นำมาแก้ไขและประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนอยู่ จนถึงทุกวันนี้
สำหรับการสอน “ห้องเรียนกลับด้าน” ( Flipped Classroom ) ฉีกกฎการเรียนการสอนทุกรูปแบบ นี้นั้นเพื่อนๆ หรือผู้ปกครอง ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในทุกโอกาสเลยนะครับไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับครูที่สอนนักเรียน ยังไงหากเพื่อนๆสนใจอยากลองการสอนแบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” ( Flipped Classroom ) ก็ลองศึกษาเพิ่มเติมและนำมาปะยุกต์ใช้กันดูนะครับ ค่อนข้างแปลกใหม่มากเลยทีเดียว หากใครชื่นชอบบทความนี้ก็ส่งต่อให้คนรอบข้างได้รับรู้กันเยอะๆนะครับ
ติดตามบทความ การศีกษาไทย เคล็ดลับการสอบ ข่าวการศึกษา ได้ที่นี้
แนะนำ 3 การศึกษาแนวใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต