ช่วงหลังๆ มานี้เราจะได้เห็นค่านิยมเกี่ยวกับการไปเรียนต่อต่างประเทศ ย้ายจากโซนยุโรปและอเมริกามาทางฝั่งเอเชียมากขึ้น อย่างการ เรียนต่อไต้หวัน ก็เป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายคนไปแล้ว ยิ่งพอมีคนเคยได้รับทุนการศึกษามาบอกเล่าประสบการณ์อันน่าประทับใจให้ฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนอื่นๆ อยากเข้าไปสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นบ้างสักครั้งหนึ่ง ว่าแต่การศึกษาที่ไต้หวันมันมีดีอย่างไรบ้าง เราลองมาดูไปพร้อมๆ กันเลย สิ่งแรกที่คนตั้งใจไป เรียนต่อไต้หวัน ชื่นชอบกัน ก็คือสถานที่เรียนแต่ละแห่งจะมีทรัพยากรและเทคโนโลยีอันทันสมัยให้ใช้อย่างเต็มที่ ทำให้ทุกการค้นคว้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสวัสดิการที่ทางสถานศึกษาจัดไว้ให้ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก นอกจากเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้เราได้สัมผัสกับความล้ำสมัยที่อาจยังไม่เคยได้เห็นในบ้านเราอีกด้วย ต่อมาเป็นเรื่องของบรรยากาศ ชีวิตช่วงที่ เรียนต่อไต้หวัน จะเป็นอะไรที่สนุกสนานมาก เนื่องจากมีผู้คนหลากหลายสัญชาติและหลากหลายวัฒนธรรม อาหารการกินก็ไม่ต่างจากบ้านเรามากเกินไป มีเพียงร้านรวงที่แปลกตาอยู่บ้างเท่านั้น เด็กส่วนมากที่ไปเรียนจึงไม่ค่อยมีปัญหาคิดถึงบ้านหรือปรับตัวไม่ได้ มีแต่จะได้เพื่อนใหม่มากเสียจนไม่มีเวลาเหงาเลยต่างหาก ที่สำคัญค่าครองชีพในไต้หวันยังไม่ได้แพงมาก ถือว่าใกล้เคียงกับพื้นที่เมืองใหญ่ในบ้านเรา นักเรียนก็เลยไม่จำเป็นต้องกระเบียดกระเสียนใช้จ่ายจนเกินไป สุดท้ายคือเรื่องความปลอดภัย ทุกคนที่ได้ไป เรียนต่อไต้หวัน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไต้หวันเป็นเมืองที่สะอาดมาก ทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย เรื่องการดูแลความสงบก็มีมาตรฐานสูง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตราย หรือการเข้าถึงเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว การคมนาคม ระบบสื่อสาร ตลอดจนผังเมืองโดยรวมก็ออกแบบมาให้มีจุดเสี่ยงน้อยมาก จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยแม้ว่าจะไปศึกษาต่อเพียงลำพังคนเดียว…
การได้เดินทางไปเรียนยังต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งความฝันของเด็กหลายๆ คน ก่อนหน้านี้ประเทศทางฝั่งตะวันตกจะได้รับความนิยมมากกว่า แต่มาถึงตอนนี้ไม่มีอะไรดีเทียบเท่ากับการได้เป็น นักเรียนทุนประเทศจีน อีกแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวลานี้ประเทศจีนได้ขึ้นแท่นประเทศชั้นนำอันดับต้นๆ ที่ต้องจับตาดู พร้อมเผยแพร่ความน่าสนใจในเชิงของวัฒนธรรมและความก้าวหน้ามาสู่บ้านเรามากขึ้น แถมยังมีการมอบทุนให้นักเรียนไทยมากขึ้นด้วย ทั้งในรูปแบบของทุนที่มีพันธะผูกพันและทุนให้เปล่า เตรียมความพร้อม เพื่อคว้าโอกาสเป็น นักเรียนทุนประเทศจีน แต่การจะคว้าทุนที่ว่านี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างแรกเลยคือคนที่ต้องการเป็นนักเรียนทุนประเทศจีนมีจำนวนค่อนข้างมาก อัตราการแข่งขันจึงสูง อย่างที่สองคือถ้าเราเตรียมความพร้อมได้ไม่ดีก็จะหมดสิทธิ์ตั้งแต่เรื่องคุณสมบัติ ดังนั้นจึงต้องเริ่มจัดตารางในการพัฒนาตัวเองเพื่อคว้าทุนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี หรือถ้าเป็นคนที่มีความมุ่นมั่นหน่อย อาจใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ไม่ว่าทุนที่สนใจจะบอกเงื่อนไขเรื่องภาษาไว้ว่าอย่างไร การที่เราใช้ภาษาจีนเบื้องต้นได้อย่างคล่องแคล่วย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ เสมอ ถ้าอยากเป็นนักเรียนทุนประเทศจีนที่มีภาษีดีหน่อย และมีสิทธิ์ในการเลือกรับทุนได้หลากหลายประเภท ก็จะต้องเริ่มเรียนภาษาจีนกันได้แล้ว และแน่นอนว่าต้องเรียนภาษาอังกฤษร่วมด้วย 2 ภาษานี้จะจำเป็นอย่างมากกับการใช้ชีวิตบนแผ่นดินใหญ่ ที่สำคัญต้องไม่ลืมไปสอบวัดระดับภาษาเพื่อเอาใบประกาศมาการันตีความสามารถของเราด้วย นอกจากภาษาแล้วก็มีเรื่องของการสร้างความน่าสนใจ คนที่จะผ่านการคัดเลือกให้เป็นนักเรียนทุนประเทศจีนได้โดยง่าย จะต้องมีผลการเรียนในระดับที่ดีพร้อมกับมีกิจกรรมที่หลากหลาย ควรเริ่มทำพอร์ตเกี่ยวกับกิจกรรมที่สนใจเอาไว้ หากเป็นการประกวดที่ได้รางวัลนอกสถานศึกษาก็ยิ่งดี เพราะมันแสดงถึงความกล้าและความตั้งใจของเราได้ สุดท้ายก็ให้ลองหาเพื่อนที่เป็นนักเรียนชาวจีนเอาไว้บ้าง เผื่อว่าจะได้คำแนะนำดีๆ ที่เอามาปรับใช้ได้ ทุกเรื่องราว การศีกษา เคล็ดลับการเรียน เคล็ดลับการอ่านหนังสือ หรือ ข่าวราชการ สามารถติดตามได้ที่ kor-kai.com และที่สำคัญต้องขอบคุณ ufabet88888 ที่สนับสนุนบทความ…
ปัจจุบันการศึกษาต่อในต่างประเทศนั้น ถือว่าได้รับความนิยมในหมู่ของนักเรียนนักศึกษาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลทางประสบการณ์และระยะเวลาในการสำเร็จการศึกษา ซึ่งในหลายประเทศเลยเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความสามารถ ขยัน เก่งได้สอบข้ามชั้นได้หรอที่เรียกว่า “เทียบโอน” ส่งผลให้การเรียนนั้นสำเร็จได้รวดเร็ว โอกาสในการประกอบอาชีพก็มีมากขึ้นนั้นเอง โดยการเรียนต่อต่างประเทศบางครั้งก็ยากสักหน่อยที่ต้องจากบ้านเกิดไปไกล ในบทความนี้จึงได้รวบรวม 5 ประเทศที่น่าไปเรียนต่อ ดังนี้ แนะนำ 5 ประเทศที่น่าไปเรียนต่อ ในต่างแดน สหราชอาณาจักร เพราะว่าในสหราชอาณาจักรเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่งดงาม น่าท่องเที่ยว เหล่นักเรียนที่ได้เดินทางไปศึกษาในสหราชอาณาจักรจึงมีโอกาสเปิดประสบการณ์มากขึ้นนั้นเอง สหรัฐอเมริกา ต่อให้ค่าครองชีพที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะสูงมาก ๆ ขนาดไหน แต่ที่นี้ก็ยังคงเป็นประเทศที่ยังคงครองใจนักเรียนจนติดอันดับ ประเทศที่น่าไปเรียนต่อ ในอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว อาจด้วยอิสระทางความคิดของนักเรียนสูงมากและมหาวิทยาลัยโด่งดังให้การสนับสนุนนักเรียนนักศึกษาต่างแดนดีในหลายระดับด้วยทุนการศึกษาที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้เรียนเป็นหลัก ออสเตรเลีย ต้องบอกเลยว่าออสเตรเลียเป็นประเทศทางเลือกในการศึกษาต่อที่ดี โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่เก่งกาจแต่ไม่มีทุนมากนัก สามารถเดินทางไปศึกษาต่อประเทศออสเตรเลียได้ เพราะค่าครองชีพไม่สูงแถมสามารถทำงานพิเศษระหว่างเรียนไปด้วยได้อย่างอิสรเสรี สิงคโปร์ ประเทศในเขตอาเซียนบ้านเราเอง ประเทศที่น่าไปเรียนต่อ ซึ่งการเรียนการสอนขอประเทศสิงคโปร์ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน! สังเกตได้จากประเทศที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว การศึกษาต่อที่สิงคโปร์ถือว่าเหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่อยากไกลบ้านมากนัก ค่าใช้จ่ายไม่สูง แนะนำเลยสิงคโปร์น่าสนใจมาก ๆ แต่ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางไปต่างประเทศได้ ไม่ใช่ว่าจะทราบแค่…
ในการเดินทางไป เรียนต่อต่างประเทศ หรือเรียนต่างถิ่นนั้น นักเรียนทุกคนจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อม ที่นอกเหนือจากการเตรียมทุนทรัพย์ หรือความพร้อมด้านภาษาแล้วนั้น นักเรียนทั้งหลายจำเป็นที่จะต้องทราบข้อมูลการเตรียมความพร้อมอย่างละเอียดตั้งแต่ 1 ปีก่อนการเดินทางไปศึกษาที่ต่างประเทศดังนี้ เตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ 1 ปีก่อนการเดินทางไป เรียนต่อต่างประเทศ ให้ทำการศึกษาค้นคว้าหลักสูตรการเรียน หรือสาขาวิชาต่าง ๆ ที่สนใจ รวมถึงการเปรียบเทียบข้อดี และข้อเสียของหลักสูตรต่าง ๆ ที่ตนสนใจ จากนั้นให้ทำการติดต่อสถาบันนั้น ๆ ที่ตนคิดว่าน่าสนใจ หรือต้องการเข้ารับการศึกษาว่าจำเป็นต้องใช้ ข้อมูลหรือเอกสารอย่างไรบ้าง เมื่อทำการกรอกใบสมัครของสถาบันนั้นเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการถ่ายสำเนาเอกสารเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานรวมถึงเอกสารอื่น ๆ ที่สำคัญก็ควรถ่ายสำเนาเก็บไว้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญอย่าลืมดำเนินการขอหนังสือเดินทางถ้ายังไม่มี หรือตรวจสอบเช็คอายุงานของหนังสือเดินทางด้วย ส่งสำเนาเอกสารที่จำเป้ยทั้งหมดไปยังสถาบันในต่างประเทศ โดยต้องกะระยะเวลาในการเดินทางของเอกสารให้ทันก่อนวันปิดรับกำหนดนั่นเอง 3 เดือนก่อนการเดินทางไป เรียนต่อต่างประเทศ หลังจากการเตรียมตัวต่าง ๆ มาเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้รับการตอบรับจากสถาบันการศึกษานั้น ๆ แล้ว แนะนำให้โทรศัพท์ไปถามถึงขั้นตอนการขอวีซ่านักเรียนที่สถานทูตก่อน เพื่อที่จะเตรียมเอกสารให้ได้อย่างครบถ้วน และต้องศึกษาการเดินทางในต่างประเทศ หรือเส้นทางสำหรับสถานที่พักอาศัย และเส้นทางต่าง ๆ ของการเดินทางไปสถาบันอีกด้วย…