ในโลกยุคปัจจุบันสิ่งที่มักจะเป็นตัววัดความแข็งแกร่งของนักรบ นอกจากสภาพร่างกายที่จะต้องผ่านการฝึกฝนที่ดีมาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ร้ายแรง และมีความทันสมัย ไล่ไปตั้งแต่อาวุธปืนพก ปืนยาว ระเบิด รถถัง เรือรบ เครื่องบิน เป็นต้น หากแต่ในยุคโบราณ นอกจากอาวุธคู่มือแล้ว สิ่งที่เป็นตัวตัดสินความร้ายกาจของนักรบนั้นก็คือ “วิชาอาคม” และวิชาอาคมตามบันทึกบอกเล่ามาแต่โบราณของประเทศไทย ก็จะมี วิชาคงกระพันชาตรี อยู่เสมอ ซึ่งใครมีวิชาเหล่านี้ก็ย่อมเป็นที่เกรงกลัวต่อนักรบคนอื่น ทำความรู้จักกับวิชาคงกระพันชาตรี อันที่จริงแล้วแม้ว่าจะมีการกล่าวถึง วิชาคงกระพันชาตรี ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นวิชาเดียวกัน แต่มันจะแยกเป็นวิชา “คงกระพัน” และ “ชาตรี” โดยทั้งสองวิชาอาคมที่ว่านี้มันมีความเหมือนและแยกแตกต่างกันไป วิชาคงกระพันเป็นวิชาที่เรามักจะได้ยินมากที่สุด เพราะเป็นวิชาที่ว่าด้วยการฟันแทงไม่เข้า หรือที่เราเรียกกันว่า “หนังเหนียว” นั้นเอง และมีการฝึกฝนตามที่เคยบันทึกไว้ว่า ผู้ทำการฝึกฝนวิชาคงกระพันนั้น จะต้องใช้การอาบแช่ว่านยาสมุนไพร และมีคาถาอาคมกำกับเอาไว้ ทำให้ผิวหนังนั้นเกิดความเหนียวและคงกระพัน เหมือนกับหนังของคนนั้นเป็นยางยืดเส้นหนาที่คมมีดไม่สามารถฟันเข้านั้นเอง หากแต่อาจทิ้งรอยจางแดง ๆ เอาไว้ตามแรงฟัน แต่แม้จะดูว่าผู้มีวิชานี้จะไม่พ่ายแพ้ แต่ความจริงแล้วจุดอ่อนก็คือผู้ใช้วิชานี้ยังเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายอยู่ ในสงครามมีการแก้ทางวิชานี้ด้วยการใช้ค้อนทุบหัวให้ตาย หรือใช้ไม้แหลมสวนทวารตาย …
28 August