เมื่อระบบการศึกษาช่วยอะไรเราไม่ได้มากนัก เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างถึงที่สุด เพราะสุดท้ายแล้ว ก็มีแค่เราเองเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง สำหรับคนที่เลือกไม่ได้ หรือยังลังเลว่าจะเรียนต่ออะไรดี ให้หาเวลาไปร่วม งาน Open House ของมหาวิทยาลัยที่สนใจดูสักครั้ง แน่นอนว่าถ้าไม่ติดอะไรก็ควรไปดูบรรยากาศของมหาวิทยาลัยอื่นๆ ร่วมด้วย ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไรก็ยิ่งดีต่อเรามากเท่านั้น ร่วม งาน Open House มองหาทางเลือกในการศึกษาดีๆ สำหรับน้องๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดอันห่างไกล อาจจะไม่คุ้นเคยกับงานวิชาการภายใต้ชื่อ Open Houseมากมายนัก แต่ถ้ามีโอกาสก็แนะนำว่าควรมาเช่นกัน ยังไงก็คุ้ม เพราะงานนี้ถือเป็นการตีแผ่ให้เด็กมัธยมได้เห็นว่า คณะที่ตัวเองสนใจนั้น เป็นไปตามที่คิดและจินตนาการเอาไว้หรือไม่ เราจะได้เห็นบรรยากาศการเรียนการสอน แม้มันจะไม่เหมือนวันเรียนจริงแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เห็นอะไรเลย แล้วก็ยังได้ฟังประสบการณ์จากคนที่เรียนคณะนั้นจริงๆ อีกด้วย ทุกสิ่งที่ได้จาก งาน Open House จะช่วยให้เด็กๆ พอเข้าใจว่าคณะและอาชีพที่ตัวเองใฝ่ฝันนั้นมันใช่หรือไม่ เพราะบางที่ก็จะมีรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้ว กลับมาเล่าประสบการณ์ทำงานให้กับเด็กๆ ฟังกันด้วย ทำให้มองข้ามช็อตไปได้อีกว่า ชีวิตวัยทำงานมันค่อนข้างต่างจากในรั้วมหาวิทยาลัย…
การเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา 6 ปี และมัธยมศึกษา 6 ปี แน่นอนว่ากรอบการเรียนรู้ย่อมแตกต่างกัน ยิ่งเลื่อนระดับชั้นมากเท่าใดก็ยิ่งหล่อหลอมให้ตัวน้อง ๆ เป็นผู้ใหญ่ที่มากขึ้น ขณะที่การก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของน้อง ๆ ชั้น ม.6 อาจกล่าวได้ว่าเป็นก้าวใหญ่ครั้งสำคัญของน้อง ๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นน้อง ๆจะต้องพบอะไรบ้าง กับชีวิตการเรียนในชั้นมหาวิทยาลัย วันนี้พี่ในฐานะเด็ก59 จะเปิดประสบการณ์ตรงเพื่อให้น้อง ๆ ไว้เตรียมรับมือ สิ่งที่น้อง ๆ ม.6 ต้องรู้ไว้เพื่อ เตรียมตัวเข้ารั้วมหาวิทยาลัย มีอะไรบ้าง ? การเตรียมตัวเข้ารั้วมหาวิทยาลัยสำหรับเด็ก ม.6 มีอะไรบ้าง สิ่งแรกที่ต้อง เตรียมตัวเข้ารั้วมหาวิทยาลัย คือ การจัดตารางชีวิตของตนเอง เพราะการเรียนมหาวิทยาลัยไม่มีการเข้าแถวตอนเช้า น้อง ๆ จะต้องมีระเบียบวินัยในตัวเองเพื่อพาตัวเองมาเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการไม่มาเข้าชั้นเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแม้ไม่มีรายงานให้ผู้ปกครองทราบ แต่หากมีการเช็คชั่วโมงเรียนแล้วขาดเกินเกณฑ์ น้อง ๆ ก็อาจจะต้องถอนรายวิชานั้นไป สิ่งต่อมาที่ต้อง…