ผู้ใหญ่

เมื่อ “อาบน้ำร้อนมาก่อน” ไม่ใช่ตัวชี้วัดเสมอไป ในปัจจุบัน!

เมื่อ “อาบน้ำร้อนมาก่อน” ไม่ใช่ตัวชี้วัดเสมอไป ในปัจจุบัน!

หลายคนได้ยินคำว่า ต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่เพราะ อาบน้ำร้อนมาก่อน แน่นอนว่าก็ต้องยึดหลักเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องตามครรลองครองธรรม  จนในปัจจุบันได้เห็นแนวคิดสมัยใหม่อย่างชัดเจน  ไม่ว่าจะเยาวชน  หรือคนที่อยู่ในสังคมไม่ว่าจะเป็น Generation ใดก็ตาม  ที่ยังเป็นข้อถกเถียงในโลก  Pantip  และ Social  Media  ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่านำเป็นแนวการศึกษาใหม่เลยทีเดียว ความหมายของคำว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน คืออะไร จะเห็นได้ว่าจากการศึกษา คำว่า  อาบน้ำร้อนมาก่อน แปลว่า เกิดก่อนผ่านประสบการณ์มาก่อน  แน่นอนว่าการนำประสบการณ์จากผู้ใหญ่มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต  ก็เป็นเรื่องที่ดีและน่าเป็นสิ่งที่เรียนรู้  แต่ยังมีข้อถกเถียงตามสื่อต่างๆ  พบว่าการอาบน้ำร้อนไม่ได้แปลว่าทุกคนจะรู้ผิดชอบชั่วดีกันทุกคน  และใช้ไม่ได้กับโลกทุกสมัยเท่าใดนัก ทั้งนี้ อาบน้ำร้อนมาก่อนอาจจะไม่ได้ถูกต้อง  100%  เท่าใดนัก  แต่ต้องดูในมุมมองทางจิตวิทยา  ซึ่งจะมองในเรื่องโครงสร้างของบุคลิกภาพในอันดับแรก  ซึ่งมีอิทธิพลมากในหลายๆ Generation อย่างมาก  ไม่ว่าจะเกิดในช่วงยุคไหนก็ตาม  ซึ่งจะแบ่งเป็นข้อๆ ว่า อิด (Id) เป็นแรงขับทางกายในด้านต่างๆ  ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด  จะเรียกว่าสันดานดิบก็ไม่เชิงนัก  จากการศึกษาระบุว่าอิดเกิดจากภาวะไร้สำนึก  มีได้ทั้งกิเลส  ตัณหา  โทสะ  โลภะ  และโมหะ …

การบังคับลูกในเรื่องเรียน ความปรารถนาดีของพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ อาจมีผลเสียต่อเด็ก

การบังคับลูกในเรื่องเรียน ความปรารถนาดีของพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ อาจมีผลเสียต่อเด็ก

               ทุกคนล้วนมีความฝันหรืออาชีพที่ตนเองอยากทำ ซึ่งในบางครอบครัวก็เปิดโอกาสให้แก่เด็กๆหรือลูกหลานของพวกเขาได้เดินไปตามความฝันของตนเอง แต่ในบางครอบครัวมีการกำหนดหรือออกคำสั่ง แนวทางในการใช้ชีวิต อาชีพ การเรียน เป็นต้น ซึ่ง การบังคับลูกในเรื่องเรียน นั้นจะทำให้เด็กๆไม่สามารถแสดงศักยภาพ ความสามารถ ความรู้ของตนเองออกมาได้เต็มที่เท่าที่ควร ยิ่งถ้าหากเส้นทางที่ครอบครัวได้ขีดไว้นั้น ไม่ใช่แนวทางความฝันของเด็กๆจะยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี กดดัน และไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตเลย การบังคับลูกในเรื่องเรียน อาจไม่เป็นผลดีต่อเด็ก                การบังคับลูกในเรื่องเรียน ในผู้ใหญ่หลายๆคนมักจะคิดว่าตนเองมีความรู้หรือการใช้ชีวิตที่มากแล้ว พบเจอกับสิ่งต่างๆมามากแล้ว แต่ในปัจจุบันนั้นโลกได้เปลี่ยนไปไกลมากกว่าที่ใครหลายคนจะตามทัน สิ่งต่างๆได้เปลี่ยนแปลงไป อาชีพต่างๆที่มีมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ได้มีเพียงแค่อาชีพที่ผู้ใหญ่ได้คิดเพียงเท่านั้น ซึ่งอาชีพที่ผู้ใหญ่มักจะขีดเส้นหรือชี้นำแนวทางให้แก่เด็ก เช่น ตำรวจ ทหาร ปลัด นายอำเภอ เป็นต้น โดยอาชีพเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพข้าราชการ ที่พ่อแม่หรือครอบครัวมักจะบอกว่าเป็นอาชีพที่ดี เงินเดือนดี สวัสดิการต่างๆเพียบพร้อม เป็นการทำงานที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีทั้งตัวเด็กเองและครอบครัว เป็นที่น่าเชิดหน้าชูตาแก่วงตระกูล อาจจะจริง แต่เราทุกคนควรมองว่าอาชีพทุกอาชีพมีเกียรติและศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน ให้ความสำคัญต่ออาชีพทุกอาชีพ ไม่ควรเหยียดหรือให้ค่าแต่ละอาชีพไม่เท่ากัน                ในบางครอบครัวอาจจะมีธุรกิจส่วนตัวที่สืบทอดมาสู่รุ่นต่อรุ่นแล้ว จึงทำให้เด็กๆในครอบครัวจะต้องอาจจะมี การบังคับลูกในเรื่องเรียน หรือการประกอบอาชีพที่สามารถนำไปสู่การสานต่อธุรกิจของทางครอบครัว…