แนะนำ 3ข้อต้องรู้ ก่อนไป ศึกษาต่อต่างประเทศ
เนื่องจากนักเรียนนักศึกษาในปัจจุบันให้ความสำคัญต่อการเรียนในต่างแดนมาก ๆ ด้วยข้อดีหลายอย่างที่มีประโยชน์ต่อตัวนักเรียนนักศึกษา เช่น โครงการช่วยนักเรียน ต้องบอกเลยว่าการ เรียนต่อต่างประเทศ ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญของนักเรียนนักศึกษา การเล่าเรียนถือว่าเป็นสิทธิที่ทุกคนตองได้รับอย่างทัดเทียม ดังนั้นประโยชน์ดี ๆ ทุกอย่างนักเรียนนักศึกษาจึงได้เต็ม 100% ยิ่งการเรียนแบบเทียบโอนได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะว่าเด็กไทยไม่ได้โง่! บางคนฉลาดล้ำไปไกล ทว่ากลับต้องมานั่งเรียนเนื้อหาที่ตัวเองรู้อยู่แล้วในทุกวัน การไปเรียนต่อในต่างแดนช่วยให้นักเรียนในกลุ่มนี้มีได้หาความรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้รวดเร็วสมกับพัฒนาการทางสมอง ทว่าการเรียนต่อในต่างแดนก็มีข้อควรระวัง ดังนี้ แนะนำ ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่ต้องการ เรียนต่อต่างประเทศ มิจฉาชีพ สืบเนื่องจากการ เรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะ 6 เดือน หรือ มากกว่า 1 ปีจำเป็นต้องมีเงินทุนอย่างน้อย 7 หลัก ผู้ปกครองหลายคนเงินไม่พร้อมก็มองหาช่องทางส่งลูกเรียนเมืองนอกด้วยงบที่ตนเองจ่ายไหว ก็เป็นที่มาของมิจฉาชีพที่แฝงมาด้วยบริษัทเอกชนนำนักเรียนนักศึกษาเรียนต่อเมือนอกด้วยงบหลักหมื่น ซึ่งความจริงแล้วเป็นไปได้น้อยมากที่ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่างแดนจะถูกเทียบเท่าประเทศไทย อย่าติดเที่ยว บางคนไป เรียนต่อต่างประเทศ ด้วยทุนการศึกษาของหน่วยงานต่าง ๆ และประเทศที่ไปนั้นก็น่าเที่ยวจนบางคนเที่ยวจนลืมการเรียน จากคนที่จะประสบความสำเร็จอาจกลายเป็นผู้ต้องมานั่งทำงานคืนทุนให้กับหน่วยงานพร้อมค่าปรับที่โหดเอาการ…
ประเทศมาเลเซีย บ้านใกล้เรือนเคียงของประเทศไทย ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ถึงระบบการศึกษาของประเทศนี้ ที่จัดได้ว่ามีมาตรฐานในระดับนานาชาติพอตัว สามารถสร้างประชากรที่มีคุณภาพมากมาย ซึ่งในวันนี้เราจะมา เจาะลึก ระบบการศึกษาของมาเลเซีย ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ทำความรู้จักแบบเจาะลึกถึงระบบการศึกษาของมาเลเซีย ระบบการศึกษาของมาเลเซีย ในระดับชั้นประถมมีความคล้ายคลึงกับไทย ขณะที่ระดับชั้นมัธยมมีความแตกต่างเล็กน้อย คือเรียน 5 ปี และอีก 1 ปี จะเป็นปีแห่งการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งหลักสูตรเตรียมความพร้อม 1 ปี นี้ จะช่วยให้เด็กมั่นใจกับสิ่งที่ตนจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งช่วยลดโอกาสเด็กซิ่วได้ ระบบการศึกษาของมาเลเซีย ในระดับชั้นประถมและมัธยม ผู้ปกครองจะมีวัฒนธรรมส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนตามกลุ่มชาติพันธุ์ของครอบครัว เพื่อให้ทายาทได้ศึกษาองค์ความรู้ของชาติพันธุ์แม่ ทั้งวัฒนธรรมและภาษา แต่ถึงกระนั้นโรงเรียนทุกกลุ่มชาติพันธุ์จะต้องมีสอนภาษาภาคบังคับจากรัฐบาล คือ ภาษามลายูและภาษาอังกฤษ ทำให้เด็กอินเดียและจีน ได้เปรียบกว่าเด็กมลายู เพราะเด็กทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์ ได้เรียนรู้ภาษาแม่กับภาษามลายูและอังกฤษ รวมเป็นสามภาษา ขณะที่เด็กมลายูจะได้เพียง สองภาษา คือ มลายูและอังกฤษแต่อย่างไรก็ตามในระดับมหาวิทยาลัยเด็กทุกชาติพันธุ์ ทั้งมลายู จีน และอินเดีย…