จิ๋นซีฮ่องเต้

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มหาสุสานจักรพรรดิจีนอันยิ่งใหญ่ สิ่งมหัศจรรย์ที่โลกต้องจารึก

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มหาสุสานจักรพรรดิจีนอันยิ่งใหญ่ สิ่งมหัศจรรย์ที่โลกต้องจารึก

ในปัจจุบันแม้ว่าเทคโนโลยีของมนุษย์จะก้าวล้ำนำหน้าไปไกลมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างดาวเทียมและยานอวกาศที่ขึ้นไปสำรวจได้ถึงดวงจันทร์ อีกทั้งยังมีข่าวว่าจะข้ามไปทำโครงการสร้างที่พักอาศัยที่ดาวอังคาร หากแต่สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา แต่เราอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนนั่นก็คือประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมนุษย์บนโลกนั้นมีมายาวนานมากแค่ไหนกันแน่ ซึ่งคำตอบก็ยังไม่แน่ชัด เพราะยิ่งสืบค้นเท่าไหร่ก็ยังมีซากโบราณสถานต่างๆ ให้เราได้พบเจอ ซึ่งเก่าแก่มากกว่าที่เราคิดทุกที หนึ่งในโบราณสถานเก่าแก่และสร้างความตื่นตกใจให้กับโลกนั่นก็คือ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  ความเป็นมาของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ โดย สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ นี้ได้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคมปีพ.ศ 2517 แต่ไม่ได้เกิดจากการค้นหาของนักโบราณคดีแต่อย่างใด หากแต่สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้กลับถูกค้นพบโดยชาวนาคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสียาง ในขณะที่เขากำลังขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำอยู่ในเชิงเขาแห่งหนึ่งหาจากเมืองซีอานไปไม่ไกลกลับค้นพบกับทหารรูปปั้นซึ่งสร้างมาจากดินเผา ทำให้นับแต่วันนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทางรัฐบาลจีนได้ทำการขุดค้นโบราณสถานดังกล่าว และทราบในเวลาต่อมาว่านั่นคือสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้มหาบุรุษผู้ได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิปกครองแผ่นดินจีนพระองค์แรก โดย สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ นั้นถือเป็นมหาสุสานอันยิ่งใหญ่สมกับความเป็นองค์พระจักรพรรดิ เพราะสามารถค้นพบโบราณวัตถุไม่ว่าจะเป็นทหารดินเผาอาวุธยุทโธปกรณ์รถม้า และม้าศึกซึ่งว่ากันว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ได้ใช้ในการรบ และปราบปรามรวบรวมแคว้นต่างๆ ให้กลายเป็นแผ่นดินจีนอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งสิ่งของแต่ละชิ้นต่างมีอายุมากกว่า 2,000 ปี แล้ว และจากการขุดค้นสำรวจพบว่าอาณาเขตของสุสานน่าจะมีมากกว่า 2,180 ตารางกิโลเมตรอีกด้วย จากคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมหาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้องค์นี้ ทำให้มันได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ซึ่งนักโบราณคดีได้เรียนรู้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณของสุสาน  ตามความเชื่อและทัศนคติของจีนโบราณที่จิ๋นซีฮ่องเต้  เมื่อสิ้นพระชนม์ลงแล้วจะต้องมีข้าราชบริพารติดตามพระองค์ไปยังโลกหลังความตายด้วย ซึ่งก็คือเหล่าทหารปั้นดินเผาเท่ากับตัวคนจริงๆ นี้  แถมด้วยห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นที่บรรจุพระศพซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของมหาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่ว่ากันว่า มีขนาดใหญ่โตเท่ากับสนามฟุตบอลที่เราใช้แข่งขันฟุตบอลอยู่ในปัจจุบัน  เท่านี้ยังไม่พอ…

เรื่องราวประวัติ “จิ๋นซีฮ่องเต้” มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ของแผ่นดินจีน

ในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของมนุษย์ จะมีการกล่าวถึงฮ่องเต้ หรือราชาผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ที่สร้างประวัติศาสตร์ในการขยายอำนาจ และดินแดนอาณาจักรของตนเองออกมาได้ ซึ่งในจำนวนราชาที่ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดนักปกครอง และราชันย์ผู้พิชิตแห่งโลกมนุษย์ในอดีตกาล นั่นก็คือ จิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นองค์จักรพรรดิพระองค์แรกที่สามารถรวบรวมดินแดน และปกครองแผ่นดินจีนได้สำเร็จ และจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้นี้ยังได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 สุดยอดฮ่องเต้ผู้ปกครองแผ่นดินจีนตลอดกาลนานมา ประวัติโดยย่อของจิ๋นซีฮ่องเต้มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เดิมที จิ๋นซีฮ้องเต้ มีพระนามเดิมว่าอิ๋งเจิ้ง ซึ่งตามประวัติศาสตร์เท่าที่มีเหลืออยู่นั้น ไม่แน่ชัดถึงที่มาของจิ๋นซีฮ่องเต้ เพราะมีข้อมูลเรื่องราวแตกแขนงออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทของเชื้อสายราชวงศ์แคว้นฉินที่ถูกส่งมาเป็นตัวประกันที่แคว้นเจ้า บ้างก็บอกว่าแท้จริงแล้วจิ๋นซีฮ่องเต้นั้น แต่เดิมเป็นเพียงแค่บุตรชายของพ่อค้าคนหนึ่งแห่งแคว้นฉิน ซึ่งสามารถสอบเข้ารับราชการและเติบโตขึ้นมาเป็นเสนาบดีคนดังแห่งแคว้นฉินได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ที่แน่ๆ นั่นก็คือจิ๋นซีฮ่องเต้น่าจะเกิดในช่วงประมาณ 260 ปีก่อนคริสตกาล  ซึ่งแผ่นดินจีนในสมัยโบราณแบ่งเป็น 7 รัฐใหญ่ จนกระทั่งจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งตอนนั้นอายุได้ประมาณ 13-14 ปีเท่านั้น ถึงขั้นโคตรล้มผู้ครองรัฐเดิม และขึ้นครองบัลลังก์ของรัฐฉินเสียเอง  จากนั้นจะ จิ๋นซีฮ่องเต้ ก็เริ่มต้นรวบคนที่มีความสามารถขึ้นมาทำการปฏิรูประบบกฎหมาย การเมือง การปกครอง รวมทั้งเศรษฐกิจของแคว้นฉินเสียใหม่ โดยเฉพาะในด้านทางทหาร ที่นอกจากมีการสะสมไพร่พลเป็นจำนวนมากแล้ว…