การเรียนรู้

การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ไม่ยากอย่างที่คิด!! เพียงมีความตั้งใจ และสมาธิสูง

การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ไม่ยากอย่างที่คิด!! เพียงแค่มี ความตั้งใจ และสมาธิสูง

การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นวิชาที่ค่อนข้างเรียนยากมากๆ เพราะต้องใช้สมาธิตั้งใจในการเรียน ซึ่งบางคนบอกว่ายาก แต่ขณะเดียวกันบางคนบอกว่าง่าย ทำไมความคิดมันจึงตรงกันข้าม เพื่อนๆเคยสงสัยไหมคะ!! เหตุผลง่ายๆคือ แต่ละคนมีทักษะ หรือแนวคิดไม่เท่ากันนั่นเอง วันนี้เรามาดูกันว่า วิชานี้นำไปใช้ประโยชน์ได้จริงไหมในชีวิตประจำวัน ตามมาดูกันเลยค่ะ การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ต้องใช้ทักษะจริงหรือ?? การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ แน่นอนที่สุดว่าวิชานี้ มันต้องใช้ทั้งสมาธิ ความคิดขั้นสูงอย่างแท้จริง จึงจะสามารถผ่านมันไปได้ ด้วยความยากของวิชาด้วยส่วนหนึ่ง ความพยายามของผู้เรียนด้วยส่วนหนึ่ง การใช้ทักษะจึงจำเป็นค่อนข้างมากทีเดียว แต่ในทางตรงข้ามคนที่มีทักษะในการคิดคำนวณที่ดีอยู่แล้ว ก็จะได้เปรียบในการเรียนวิชานี้ไปโดยปริยายนั่นเอง ทำไมบางคนจึงเก่งใน การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยความที่คนเรานั้นต่างเกิดมามีความเก่งและแตกต่างกัน ในด้านของความคิดที่หลากหลาย บางคนจึงเก่งวิชานี้แบบแค่สอนให้ความรู้เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช่แล้วค่ะเพราะเค้าเรียกว่าเป็นคนที่มีความเก่งด้านวิชานี้นั่นเอง อีกทั้งเมื่อมีการฝึกฝนบ่อยๆเข้า ความสามารถด้านนี้ก็จะแสดงออกมาได้อย่างชัดเจนในเวลาต่อไปอีกด้วย การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ กับการใช้ในชีวิตประจำวัน จะว่าไปแล้วการใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้น การที่เรามีการซื้อขายเกิดขึ้น มีผลกำไร มีขาดทุนก็ใช้หลักการทางวิชานี้ทั้งนั้น เพราะเราต้องคำนวณหาคำตอบนั่นเอง จึงเรียกได้ว่าเป็นวิชาที่มีอิทธิพล ต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราทุกคนควรมีความรู้ในด้านนี้กันให้มากๆ เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเราได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตค่ะ สรุปได้ว่าการมีพื้นฐานวิชานี้นั้น มีความสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง เราจึงควรให้ความสำคัญกับการเรียนวิชานี้ให้มากที่สุด เพราะมันเป็นการต่อยอดทางด้านความคิด…

5 ทักษะ ที่จำเป็นต้องรู้! เพื่อช่วย สร้างการเรียนรู้ ได้อย่างรวดเร็ว

5 ทักษะ ที่จำเป็นต้องรู้! เพื่อช่วย สร้างการเรียนรู้ ได้อย่างรวดเร็ว

               พัฒนาการเรียนถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด เนื่องจากเด็กบางคนที่ผู้ปกครองละเลยให้การดูแลเรื่องพัฒนาการเรียนรู้ส่งผลให้อนาคตเด็กที่เรียนรู้ช้าเกิดปัญหาในหลายด้าน เช่น เรียนไม่ทันเพื่อน ขาดโอกาสในการทำงาน ขาดโอกาสหาประการณ์ที่ดี เป็นต้น ซึ่งทุกคนจำเป็นตองทราบก่อนว่า การเรียนรู้ คือ การที่บุคคลนั้นได้รับความรู้ไม่ว่าจะเป็นทักษะ พฤติกรรม ความคิด ทัศนคติหรืออื่น ๆ จากผู้สอนนั้นเอง โดยการเรียนรู้ของคนเราจะเกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 6  อย่างจากการคิด การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน เป็นต้น แต่ทุกการเรียนรู้หากไม่ได้รับการฝึกฝนก็ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นบทความนี้ได้รวยรวม 5 ทักษะ สร้างการเรียนรู้ ดังนี้ แนะนำ สร้างการเรียนรู้ ด้วยทักษะต่างๆ หัดเชื่อมโยงความรู้ ในทุกการเรียนจะได้ประสิทธิภาพ 100% คือ การเข้าใจในสิ่งนั้น โดยการเชื่อมโยงความรู้เก่ามาเป็นเหตุผลประกอบการพิจาณาคำตอบใหม่ ๆ อยู่เสมอ หรือประสบการณ์เดิมสอนทุกคนพัฒนาตัวเอง หัดใช้สื่อเสริมทักษะ ในปัจจุบันสื่อมีบทบาทต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นการเสริมสื่อที่ดีก็สามารถสร้างการเรียนรู้ได้ เช่น การเรียนภาษาอังกฤษในชั้นเรียนไม่เข้าใจจึงได้ศึกษาเพิ่มเติมใน Google ก็ถือว่าเป็นการใช้สื่อในทางที่ดี…

สร้างความสุข และประสบความสำเร็จ ในการเรียนรู้ด้วย PERMA Model

สร้างความสุข และประสบความสำเร็จ ในการเรียนรู้ด้วย PERMA Model

               การประสบความสำเร็จในด้านการเรียน ใช้เพียงแค่เทคนิคในการพัฒนาทักษะ พัฒนาสมอง และเคล็ดลับการเรียนต่างๆ จากรุ่นพี่และสถาบันติว มันไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีระดับความสุขที่เหมาะสมในทุกครั้งที่เกิดการเรียนรู้ด้วย ซึ่ง PERMA Model ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสร้างความสุขที่น่าสนใจ สามารถปรับใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต ไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับการศึกษาของเด็กๆ เท่านั้น และจากสถิติที่ผ่านมา พบว่าผู้ที่ใช้แนวทางนี้มีค่าความสุขเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ใจความหลักของ PERMA Model                หากสรุปใจความหลักของ PERMA Model ให้เข้าใจได้ง่าย มันก็คือการมองโลกในแง่ดี แล้วอาศัยองค์ประกอบแวดล้อมเข้ามาช่วยสนับสนุน คำว่า PERMA เป็นการรวมของอักษรที่มีความหมายเฉพาะตัว ได้แก่ ตัวอักษร P- Positive Emotion ตัวอักษร E- Engagement ตัวอักษร R- Relationships ตัวอักษร M- Meaning และสุดท้ายตัวอักษร A- Accomplishments เหมือนกับการแบ่งเป็นหมวดหมู่ 5 หมวด…

เรียนที่บ้าน ทำยังไง? ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ให้เสียการเรียน

เรียนที่บ้าน ทำยังไง? ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ให้เสียการเรียน

            ข้อดีของการ เรียนที่บ้าน ก็มีอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความอิสระของช่วงเวลา เด็กๆ สามารถเลือกได้เองว่าพร้อมสำหรับการเรียนรู้เมื่อไร บรรยากาศไม่ก่อให้เกิดความตึงเครียด ส่งผลให้สมองทำงานได้ดีขึ้น และถ้าใครขยันหน่อย ก็สามารถเรียนล่วงหน้าเพื่อเก็บเนื้อหาไปก่อนได้เลย ไม่ต้องรอเพื่อนๆ เหมือนการเรียนในห้อง แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย หลายคนเมื่อระบบปรับเปลี่ยนให้เรียนอยู่กับบ้าน ก็เกิดอาการขี้เกียจบ้าง เรียนไม่รู้เรื่องบ้าง ยิ่งนานวันประสิทธิภาพก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ เคล็ดลับ เรียนที่บ้าน ให้มีประสิทธิภาพ                ซึ่งปัญหาทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่ใช่แค่ เรียนที่บ้าน หรอก คนวัยทำงานที่อยู่ๆ ต้องเปลี่ยนมาทำงานจากที่บ้านก็มีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันหมด หน้าที่เราจึงต้องบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ควรทำ มากกว่าสิ่งที่อยากทำ ก่อนอื่นลองคิดดูว่า จะเปิดคอมเรียนเมื่อไรก็ได้ จะนั่งหรือนอนเรียนก็ยังได้ มันดีกว่าการนั่งเรียนตัวตรงอยู่ในห้องแล้ว ที่เหลือก็แค่เรียนและทำงานให้ครบเท่านั้นเอง                เรื่องบรรยากาศของที่บ้านสำคัญมาก ต้องจัดพื้นที่สำหรับ เรียนที่บ้าน ไว้เฉพาะ ควรมีความเป็นส่วนตัวและเงียบมากพอ หลีกเลี่ยงการนอนเรียนบนเตียง หรือนั่งในพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากเกินไป พร้อมกับจัดตารางเรียนให้เป็นเวลา แน่นอนว่าเรามีอิสระในการเลือกช่วงเวลาได้เอง แต่ก็ไม่ใช่ว่านึกอยากเรียนก็เรียน ควรกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าแต่ละวันจะเรียนตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง                นอกจากนี้ก็ต้องมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ด้วยว่า…

วิธีการเพิ่มศักยภาพแห่งการเรียนรู้ ด้วยเทคนิค Brain Based Learning

วิธีการเพิ่มศักยภาพแห่งการเรียนรู้ ด้วยเทคนิค Brain Based Learning

               พอพูดถึงเรื่องการศึกษาทีไร เด็กวัยเรียนส่วนใหญ่ก็มักจะรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทุกที ไม่ใช่ว่าเด็กๆ ไม่สนใจใฝ่รู้ หรือเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาว ต่อให้เป็นเด็กหลังห้องที่ถูกมองข้าม ก็มักจะมีนิสัยรักการเรียนรู้อยู่ในตัว นี่เป็นสิ่งที่คนในวงการการศึกษารู้ดี จึงมีการพัฒนาเทคนิคที่ชื่อว่า Brain Based Learning ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้อยากเรียนรู้ และช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุดด้วย เทคนิค Brain Based Learning การเรียนรู้อย่างมีความสุข                จากผลการวิจัยเทคนิค Brain Based Learning พบว่าเด็กทั้งหมดมีพัฒนาการในการเรียนรู้สูงกว่าเดิมถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เรียนอยู่ในสภาวะที่มีความสุขอยู่เสมอ ไม่ตึงเครียด ไม่ซึมเศร้า ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีมากในการปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการที่ครูใช้สอนนักเรียน เพราะมันจะได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย แล้วเชื่ออย่างยิ่งเลยว่า เด็กๆ จะอยากมาเรียนกันมากขึ้น ไม่ต้องบังคับขู่เข็ญอย่างเช่นทุกวันนี้                วิธีการใช้เทคนิค Brain Based Learning ในชีวิตประจำวัน อันที่จริงควรเป็นการร่วมมือกันระหว่างครูและนักเรียน แต่ถ้าทางโรงเรียนไม่ได้เห็นความสำคัญ ตัวนักเรียนเองก็ปรับใช้เทคนิคนี้เป็นการส่วนตัวได้ โดยมันจะมีอยู่ 4…

ความรู้รอบตัว วิชาที่ได้ใช้จริง

ความรู้รอบตัว เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ เป็นเหมือนวิชาที่ได้นำมาใช้ในชีวิตจริง

               หากพ่อแม่เป็นสื่อกลางให้การส่งเสริมความรู้รอบตัวให้กับลูกของเรา ก็จะทำให้โลกกว้างของการเรียนรู้นั่นเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น จนนำพาไปสู้พื้นฐานของการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และทำให้เด็กเปิดรับสิ่งที่แปลกใหม่อยู่เสมอ เพราะ ความรู้รอบตัว ก็เหมือนวิชาที่ได้นำมาใช้ในชีวิตจริงเลย แล้วมันจะทำให้มุมมองของเด็กมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลในภายภาคหน้าได้อีกโดย ความรู้รอบตัวการเรียนรู้แบบไม่มีวันจบสิ้น                ซึ่งความรู้รอบตัวก็ไม่มีการจำกัดความ สามารถที่จะเรียนรู้ได้ตอลดเวลาแบบไม่มีวันจบสิ้น เหมือนเป็นการต่อยอดให้เขาได้เข้าใจบนโลกกว้างใบนี้มากขึ้น และในบางครั้ง ความรู้รอบตัว ก็ไม่สามารถที่จะหาจากห้องเรียนได้ อีกทั้งไม่เหมือนกับพวกวิชาการทั่วไป เพราะความรู้รอบตัวสามารเรียนรู้ได้จากสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเราเอง ไม่ว่าจะเป็น สิ่งของ เครื่องใช้ อุปกรณ์บริโภคอุปโภค หรือแม้แต่ธรรมชาติที่อยู่ใกล้ ๆ ล้วนนำมาประยุกต์เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนได้                อย่างความรู้รอบตัวที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ เวลา อาหาร ยารักษาโรค เครื่องยนต์พาหะนะ เชื้อชาติ รวมไปถึงวิถีการดำเนินชีวิตต่าง ๆ ก็สามารถหยิกยกนำมาสอนพวกเขาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้สื่อการเรียนการสอนในห้องเรียนเลย เพียงเท่านี้พวกเขาก็สนุกการเรียนรู้พร้อมเปิดโลกกว้างพร้อมกับพวกเราแล้ว เหมือนคำที่ว่าครูคนแรกของลูกก็คือพ่อและแม่นั่นเอง                โดยความรู้รอบตัวก็ยังมีมากมายจากนอกบ้านของเรา ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ไปเรียนรู้กัน เพียงแต่ว่าสถานที่พวกนี้พ่อและแม่หรือผู้ปกครองต้องมีใจร่วมด้วย…

สภาพแวดล้อมในบ้านกับการเรียนรู้ เป็นเรื่องสำคัญ ที่อยู่ใกล้ตัวของเด็กๆในวัยเรียน

สภาพแวดล้อมในบ้านกับการเรียนรู้ เป็นเรื่องสำคัญ ที่อยู่ใกล้ตัวของเด็กๆในวัยเรียน

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญเอามากๆสำหรับ สภาพแวดล้อมในบ้านกับการเรียนรู้ ซึ่งหลายครอบครัวอาจจะมองข้ามเรื่องนี้ โดยอาจจะเกิดจากความชินหูชินตากับที่อยู่อาศัย แต่บ้านนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับมุมพัฒนาตัวเองในรูปแบบต่างๆ สภาพแวดล้อมในบ้านกับการเรียนรู้ที่ดีของเด็กวัยเรียน สภาพแวดล้อมในบ้านกับการเรียนรู้ ของเด็กๆในวัยเรียน เพื่อการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้นไม่ได้หมายถึงบ้านที่หลังใหญ่ สวยหรูราคาแพง แต่เป็นบ้านที่มีความสงบ และเงียบ ไม่วุ่นวาย มีมุมส่วนตัว เพราะมุมส่วนตัวนั้นคือมุม มุมหนึ่งที่สำคัญมากๆสำหรับการใช้พัฒนาตัวเอง หรือมุมใช้ความคิด ผมจะขอยกตัวอย่างนะครับ เช่นหากเพื่อนๆ อ่านหนังสือในที่ๆอากาศร้อน อบอ้าว และมีเสียงดังรบกวน กับเพื่อนๆอ่านหนังสือในที่ๆ อากาศเย็นสบาย และเงียบสงบ แบบไหนล่ะที่จะอ่านหนังสือแบบมีสมาธิมากที่สุด เพื่อนๆเริ่มเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมครับ ดังนั้นเราจะมักเห็นบ้านของนักเขียนชื่อดังหลายๆคนนั้น เป็นบ้านที่หลักใหญ่ มีระเบียบ และอากาศถ่ายเท สะดวกสบาย ดูเป็นส่วนตัวเอามากๆ เพราะนักเขียนเหล่านี้ต้องใช้สมาธิและสภาพแวดล้อมที่ดีนั่นเอง แล้วเพราะอะไรคนส่วนใหญ่จึงมักไปหามุมเงียบๆสงบๆทำงานอ่านหนังสือที่ร้านกาแฟซักร้าน คนเหล่านั้นอาจจะหาสถานที่ ที่สงบๆเงียบๆและเย็นสบายนอกบ้านก็ได้ เพราะเหตุนี้ การจัดบ้านให้น่าอยู่และมีมุมให้ใช้สมองได้คิดอะไรเงียบๆคนเดียวบ้าง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามกันเลยทีเดียว หากใครที่อ่านหนังสือแล้วเกิดไม่มีสมาธิ ลองมาจัดบ้านกันใหม่ดูนะครับ เพราะวิธีการจัดบ้านนั้นมีหลากหลายมากๆและยิ่งใครที่ลูกกำลังเรียนอยู่แล้วละก็ ยิ่งควรหามุมส่วนตัวดีๆภายในบ้านให้ลูกกันด้วยนะครับ เพื่อให้เค้าได้ใช้สมาธิกับสิ่งต่างๆด้วยตัวเองให้มากที่สุด สำหรับบทความ สภาพแวดล้อมในบ้านกับการเรียนรู้ เป็นเรื่องสำคัญ ที่อยู่ใกล้ตัวของเด็กๆในวัยเรียนนั้นทำให้หลายคนอยากจัดบ้านกันมากขึ้นบ้างไหมเอ่ย หากใครที่กำลังเรียนหนังสืออยู่…