Kor-Kai.com

การเมือง เป็นเรื่องของทุกคน! แต่ทำไมประเทศไทยไม่ควรทำ “การรัฐประหาร”

การรัฐประหาร ในประเทศไทย

สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกๆท่านทุกๆคน  ในบทความนี้จะเป็นการนำเสนอมากกว่าที่จะโจมตีเพื่อสร้างความขัดแย้งใดๆ แน่นอนว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง  แต่มันเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องสร้างความตระหนัก  และให้ทุกคนตระหนักเรื่องการทำรัฐประหาร  ซึ่งเคยได้ยินมาบ้างแล้วกับการศึกษาไทย  จากที่ศึกษามาหลายแหล่งข่าวรวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบันจะขอแยกเป็นข้อๆ ว่าทำไมประเทศไทย ไม่ควรทำ การรัฐประหาร

เหตุผลที่ ประเทศไทยไม่ควรทำ การรัฐประหาร

1.ความเหลื่อมล้ำทางสังคมจะหนาขึ้น ประเทศไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนได้ในระยะยาว  จากการศึกษาในแต่ละแหล่งข่าว  พบว่าการทำรัฐประหาร นำมาซึ่งการคอรัปชั่นเพิ่มขึ้น  มิใช่แค่เรื่องการเมืองเท่านั้น  แต่การช่วยเหลือคนที่เข้าถึงได้ยาก  การศึกษาของเยาวชนที่ควรจะได้รับและเนื้อหาที่ทันสมัยจะเข้าไม่ถึง  รวมทั้งเงินช่วยเหลือเยียวยาจะไม่ถึงมือจนต้องระดมทุนบริจาคกันมากขึ้น  ซึ่งภาระหน้าที่นั้นควรเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ควรรับผิดชอบมากกว่ารับผิดชอบกันเอง

การ รัฐประหาร  ทำให้การศึกษาไทยไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควร

2.การศึกษาในไทยจะถอยหลังลงคลองมากขึ้น จะเห็นได้ว่าประเทศไทยของเรามีค่าเฉลี่ยการศึกษาในอันดับที่ไม่ดีเท่าใดนัก  การที่ทำ การรัฐประหาร  ทำให้การศึกษาไทยไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควร  (พูดง่ายๆ คือการศึกษาไทยล้าหลัง  ไม่สามารถพัฒนาประเทศชาติให้ดีขึ้น)  เนื้อหาการเรียนการสอนไม่ทันสมัย  ขาดการอัปเดตความรู้เนื้อหาที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยและช่วงปี  และขาดจิตวิทยาในเด็กที่เหมาะสม  จนทำให้สังคมขาดความตระหนักในเรื่องความรู้ต่อเด็กและเยาวชน  จริยธรรมที่ควรรับมือในยุคการเปลี่ยนแปลง  รวมทั้งเน้นเรียนเพื่อไปสอบมากกว่าเรียนเพื่อเสริมทักษะชีวิต  ทำให้เด็กได้รับการศึกษาแบบขาดๆ เกินๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่นัก

การรัฐประหาร ส่งผลต่อตลาดหุ้นติดลบ

3.ตลาดหุ้นติดลบ หากใครเข้าใจการศึกษาในหลักการเศรษฐศาสตร์  การที่ทำ การรัฐประหาร ส่งผลต่อตลาดหุ้นติดลบ  ซึ่งเป็นภาพรวมที่ไม่ดีนัก  นั่นแปลว่าเศรษฐกิจไทยจะตกต่ำลง  และจะรุนแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งในปี  2540  ผลของการทำรัฐประหารนั้นทำให้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนน้อยลง  และจะมีผลเสียต่อค่าแรงของแรงงานโดยได้ค่าแรงถูกลง  อัตราการว่างงาน  หนี้สินเพิ่มสูงขึ้น  เอาง่ายๆ คือรายรับไม่สมดุลกับรายจ่าย  กับใช้แรงงานหนักแต่ค่าแรงถูก  GDP  ภายในประเทศจะแย่ลง  ส่งผลต่อราคาอาหาร  พืชผลทางการเกษตร  ยางพาราและราคาน้ำมันที่ไม่เหมาะสม  ทำให้เสี่ยงต่อการล้นตลาดและราคาสูงขึ้น  ภาวะเงินฝืดจะตามมา

4.อาชญากรรมสูงขึ้น จากการศึกษาพบว่าช่องว่างของกฎหมายเพิ่มขึ้น  ผลของการทำรัฐประหารนำมาซึ่งอาชญากรรมสูงขึ้น  โดยเฉพาะยาเสพติด  การขู่กรรโชกทรัพย์  รวมทั้งสิ่งต่างๆ ที่ดำเนินอย่างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น  ปัญหาคดีความต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขในหลายๆ คดี  ประชาชนเริ่มหมดความเชื่อมั่นในกระบวนการทางกฎหมายมากขึ้น

การรัฐประหาร นำมาซึ่งอาชญากรรมสูงขึ้น

ที่ผู้เขียนได้นำเสนอมา  เป็นการยกตัวอย่างจากสิ่งรอบตัวทั้งสิ้น  ซึ่งการทำ การรัฐประหาร แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าใดนักและไม่เหมาะสมกับสภาพในประเทศไทยเท่าใดนัก  แต่ผู้เขียนก็อยากให้ประเทศไทยเข้าสู่ความสงบและใช้ชีวิตด้วยความสันติสุขอย่างแท้จริง  จึงเป็นข้อสรุปที่ว่าทำไมเราควรใส่ใจเรื่องการเมือง  เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนค่ะ

ติดตามบทความ การศึกษา การศีกษาไทย การศึกษาต่างประเทศ ข่าวการศึกษา เคล็ดลับการอ่านหนังสือ ได้ที่นี้

บทความแนะนำ เมื่อ “อาบน้ำร้อนมาก่อน” ไม่ใช่ตัวชี้วัดเสมอไป ในปัจจุบัน!